รีวิวเกม FC 25 – เกมหมาในโลกฟุตบอล ยืนหนึ่งโดดเด่นแม้ไม่ค่อยเปลี่ยน

เวียนวนมาบรรจบครบอีกหนึ่งปีครับสำหรับฤกษ์งามยามดีที่เกมฟุตบอลประจำปีของ EA Sports อย่าง FC จะวางจำหน่ายในภาคใหม่ใช้ชื่อง่ายๆ สั้นๆ ว่า FC 25 ครับ ซึ่งแม้ตลอดช่วงที่ผ่านมาเราจะได้เห็นข่าวคราวต่างๆ นานา ถึงเกมที่จะมาเป็นคู่แข่งของ FC แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีใครที่จะเปิดหน้าจริงจังมาสู้ และนั่นทำให้นี่ยังคงเป็นอีกปีที่พวกเขาไร้คู่แข่งและอาจจะอีกสักพักหนึ่งกว่าที่ FC 25 จะโดนท้าทายอย่างเป็นทางการ

FC25 จะยังคงรั้งบัลลังก์เกมฟุตบอลอันดับ 1 ของโลกอย่างเหนียวแน่นแม้ว่าการเปลี่ยนเปลงของมันจากภาคก่อนหน้ามาภาคนี้จะแทบไม่มีอะไรโดดเด่นหรือเปลี่ยนแปลงเลยก็ตาม

คุณภาพของตัวเกมเหมือนเอาภาค 24 มาอัปเกรดไมเนอร์เชนจ์ แม้เราจะบอกได้ว่าเกมแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนนอกจากการอัปเดตค่าพลังรวมถึงสเตตัสของนักเตะ แต่เราก็ยังสามารถพูดได้เช่นกันว่าคอร์เกมเพลย์ของ FC 24 มันแข็งแกร่งเสียจนทีมพัฒนาไม่จำเป็นต้องไปแตะอะไรมันมากหากไม่คิดจะยกเครื่องเกมใหม่ ดังแนวคิดที่ว่าอะไรที่มันดีอยู่แล้วก็ไม่ต้องไปเปลี่ยนมันมาก

อย่างไรก็ตามในความเปลี่ยนแปลงที่ไม่มากไม่มาย ก็ยังมีบางสิ่งที่พอจะโดดเด่นขึ้นมาอยู่บ้าง อย่างเช่นระบบ Play Style ที่ทำให้ Trait เฉพาะของผู้เล่นบางคนมีความหมายมากขึ้น เช่นนักเตะอย่าง “บรูโน่ แฟร์นานด์ส” จะมี Trait แนวๆ Killer Pass ซึ่งทำให้เขาสามารถจ่ายบอลทะลวงกองหลังได้เห็นผลและง่ายกว่านักเตะที่ไม่มี Trait แนวๆ นี้ คือภาคก่อนๆ มันก็มีอะไรประมาณนี้ แต่ FC 25 ทำให้มันเห็นผลชัดเจนขึ้นมาก จนเราสามารถแยกความโดดเด่นของนักเตะแต่ละคนออกชัดเจนมากขึ้น บางคนพลังรวมน้อยกว่านักเตะในตำแหน่งเดียวกันแต่มี Trait เหมาะกับงานมากกว่า ก็จะเป็นข้อพิจารณาสำคัญในการเลือกใช้ครับ

FC Rush ก็เป็นอีกโหมดที่ถูกเพิ่มเข้ามา เอาเข้าจริงก็ไม่ได้ใหม่อะไรขนาดนั้น เพราะมันเหมือนกับถูกอแดปต์มาจากโหมดฟุตซอล เป็นการแข่งฟุตบอลแบบ 5V5 ดังนั้นมันจึงไม่เหมือนฟุตซอลเสียทีเดียว ส่วนตัวแล้วชอบโหมดนี้มากกว่า อาจไม่ได้ใช้เล่นอะไรจริงจังนัก แต่ก็เปลี่ยนบรรยากาศใช้ได้ นอกจากนี้ก็มีอีกหนึ่งฟีเจอร์น่าสนใจอย่าง FC IQ ที่เป็นเรื่องการทำระบบแทคติคขึ้นมาใหม่ ใช้ข้อมูลในโลกจริงและ AI มาประมวลผลทั้งเรื่องของตำแหน่งผู้เล่น, แทคติคที่ใช้ และการปรับแทคติคตามสถานการณ์ ซึ่งในภาคนี้เราจะเห็นการยืนตำแหน่งของนักเตะในรูปแบบที่หลากหลายขึ้นอยู่กับบทบาทเฉพาะที่แตกต่างกันออกไป เป็นการออกแบบที่สอดรับกับฟุตบอลสมัยใหม่ที่ตำแหน่งหนึ่งๆ จะไม่ได้มีหน้าที่ตายตัวอย่างเดิมอีกต่อไป

ทั้งนี้เราอาจจะไม่ได้สังเกตนักตอนเล่นจริง แต่การเซ็ตบทบาทนักเตะให้สอดรับกับแผนหรือรูแบบการเล่นที่เราใช้มันก็ค่อนข้างจะเห็นผลลัพท์และความแตกต่างที่ชัดเจนพอสมควร หรืออย่างระหว่างแข่งตัวเกมก็จะมีเรียนรู้การเล่นและประเมินสถานการณ์ของทีมเราและจะมีการแนะนำแผนที่เหมาะกับสถานกาณ์ระหว่างนั้นขึ้นมาด้วย หากเรากดใช้ตำแหน่งการยืนและรูปแบบแทคติคก็จะเปลี่ยนไปทันทีครับ

FC 25 ยังมีการปรับปรุงอีกหลายจุดอย่าง HyperMotionV ที่ได้รับการอัปเกรดก็ทำให้การเคลื่อนไหวนักเตะดูสมจริงและหลากหลายขึ้นอีกหน่อย หรือการปรับอินเตอร์เฟสในหลายๆ จุดให้ดูแตกต่างออกไปจากตอนใช้ชื่อ FIFA มากขึ้น ส่วนโหมดมหาชนอย่าง Ultimate Team เคยเป็นอย่างไรก็ยังเป็นอย่างนั้น ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนมากไปกว่าการออกแบบการ์ดนักเตะลายใหม่ๆ ก็อินเตอร์เฟสบางส่วนครับ

พอมาย้อนดูตัวเองก็พบว่างานรีวิว FC เป็นอะไรที่เขียนยากเสมอมาเพราะความเปลี่ยนเล็กเปลี่ยนน้อยของมัน และชัดเจนว่าภาคก่อนหน้านั้นเขียนง่ายกว่าเยอะเพราะเป็นการยกเครื่องหลายๆ อย่าง พอตัวเกมกลับลูปอัพเกรดเล็กๆ น้อยๆ มันจึงยากที่จะเขียนถึงและให้คะแนนในหลายๆ แง่มุม เพราะในทางหนึ่งหากไม่ใช่ผู้เล่นสายลึกอะไร FC 25 ก็แทบจะเป็นเกมเดิมเมื่อปีก่อนแบบเด๊ะๆ เลย แม้หลายสิ่งจะเปลี่ยนไปบ้างแต่ภาพลักษณ์นั้นชัดเจนว่าเหมือนเดิมมากกว่า ว่ากันตรงๆ ถ้ายังชอบเกมภาคเดิมอยู่ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อใหม่

แต่ในทางหนึ่งการอัปเกรดเล็กๆ น้อยๆ ที่ว่าก็พาให้ FC25 เป็นเกมที่สมบูรณ์ที่สุด พวกบั๊กที่เคยเป็นมีมให้ล้อกันก็แทบจะไม่เหลือ Polish จนปัญหาทางเทคนิคก็แทบไม่เจอ เมื่อผนวกกับคอร์เกมเพลย์ที่แข็งปั้กกับลิขสิทธิ์ทีมกับลีคครอบจักรวาล ทำให้ในท้ายที่สุดแล้ว FC 25 จึงยังคงเป็นเกมฟุตบอลที่ดีที่สุดในปีนี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ