ในขณะที่ภาคเสริมตัวล่าสุดของ Destiny 2 อย่าง The Final Shape จะกำลังได้เสียงตอบรับที่ค่อนข้างดีจากผู้เล่น แต่ Bungie ก็ออกมาประกาศปลดพนักงานชุดใหญ่อีกครั้ง คราวนี้ 220 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่งปลดพนักงานไปราว 100 ตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แต่นั่นก็ยังไม่พอ เพราะหลังจากนี้พนักงาน Sony อีก 155 คนก็กำลังจะถูกย้ายไปอยู่ภายใต้ Sony โดยตรง พร้อมกับจะมีการตั้งสตูดิโอใหม่เพื่อรับช่วงต่อในการพัฒนาเกมแอ๊กชั่นวิทยาศาสตร์แฟนตาซีที่ยังไม่ถูกเปิดตัวต่อจาก Bungie ด้วย เท่ากับว่าตอนนี้จะมีพนักงานอยู่ราว 850 คน หรือแค่ราวครึ่งหนึ่งของที่เคยมีเท่านั้น
สำหรับสาเหตุในการปลดพนักงานครั้งนี้ คุณ Pete Parsons ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Bungie กล่าวว่า เพื่อแบ่งเบาสถานการณ์ทางการเงินของบริษัท อันเนื่องมาจากภาคเสริมตัวก่อนหน้าของ Destiny 2 อย่าง Lightfall มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน การลดจำนวนพนักงานในครั้งนี้ พร้อมกับแบ่งพนักงานและหนึ่งในโปรเจกต์เกมที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาไปให้ Sony จะทำให้พวกเขาดูแลอนาคตของ Destiny 2 และพัฒนา Marathon ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ Bungie ประกาศปลดพรักงานในครั้งนี้ ก็มีรายงานตามมาว่า Bungie เพิ่งยกเลิกการพัฒนาเกมใหม่ในจักรวาลของ Destiny ที่ใช้โค้ดเนมในการพัฒนาว่า Payback ไปหมาด ๆ ซึ่งว่ากันว่ามันจะเป็นเกมที่มีส่วนผสมของทั้งมุมมองบุคคลที่หนึ่งและมุมมองบุคคลที่สาม โดยมีสไตล์การเล่นที่คล้ายกับ Warframe และ Genshin Impact ในขณะที่แฟนเกมบางส่วนก็รู้สึกกังวลถึงอนาคตของ Destiny 2 เพราะทีมงานยืนยันว่าจะไม่มีการปล่อยภาคเสริมใหญ่ ๆ รายปีอีกแล้ว และแฟนเกมอีกส่วนก็ไม่พอใจในตัวของ CEO อย่างคุณ Pete Parsons เอามาก ๆ เพราะนับตั้งแต่ที่รับเงินมาจากการถูก Sony ซื้อกิจการไปในปี 2022 เขาก็ใช้เงินกว่า 2.4 ล้านดอลลาร์ หรือราว 85 ล้านบาท ในการซื้อรถคลาสสิกมาสะสมกว่า 20 คัน และนั่นเป็นจำนวนเงินที่สามารถถูกตรวจสอบโดยสาธารณะได้เท่านั้น
แปลและเรียบเรียงจาก
https://www.bungie.net/7/en/News/article/newpath
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station