แม้โดยส่วนตัวจะเฉยๆ กับหนังประเภท Prequel เพราะชื่นชอบการเล่าเรื่องราวไปข้างหน้าาเสียมากกว่า ทว่ากับคอนเซ็ปต์ “วันแรก” ของภาพยนตร์แฟรนไชส์ A Quiet Place ก็ชวนให้น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะหนังที่ผ่านมา 2 ภาคก็ยังไม่ให้รายละเอียดหรือที่มาที่ไปของเหล่าเอเลี่ยนมากนัก นอกเสียจากฟังเสียงได้และเป็นสุดยอดเครื่องจักรสังหาร
จึงเกิดความคาดหวังอยู่ลึกๆ ว่าหนังจะพาเราไปสำรวจในจุดนี้ ทั้งที่มาที่ไปและแรงจูงใจ อยู่ยังไง กินอะไร หรือมนุษย์จะสู้ยังไงในวันแรกที่พวกมันมา ซึ่งจากในลิสต์ความคาดหวังที่วาดไว้มันก็มีบางส่วนที่เราได้เห็นและเข้าใจในจักรวาลของหนังเรื่องนี้มากขึ้น ทว่าที่สุดแล้ว A Quiet Place: Day One ก็เลือกที่จะคงจุดเด่นของตัวเองด้วยการกลับไปเป็นภาพยนตร์แบบภาคแรกอีกครั้ง แม้จะแตกต่างด้วยเรื่องราวพาร์ทมนุษย์ที่ทำได้กินใจ ทว่าในภาพรวมมันก็คือ A Quiet Place ซึ่งเป็นทั้งจุดแข็งและจุดที่ออกจะชวนผิดคาดอยู่สักหน่อย
A Quiet Place: Day One จะเล่าเรื่องของแซมสาวผิวดำที่ป่วยโรคร้ายระยะสุดท้ายและจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน เธอแต่งบทกวีแก้เบื่อไปวันๆ ควบคู่กับการได้ดูแลโฟรโดแมวบำบัดตัวป่วนขวัญใจผู้ชม ทั้งคู่ต้องจับพลัดจับผลูมาพบกับ อีริค ชายหนุ่มผู้ระเห็จมาจากอังกฤษเพื่อมาเรียนกฎหมายและไม่ได้เตรียมใจจะพบกับเรื่องไม่คาดคิดเมื่อวันสิ้นโลกอยู่แค่เพียงปลายจมูก
เรื่องที่อยากชมคือพาร์ทดราม่าของคนสองคนที่แตกต่างออกไปจาก 2 ภาคที่แล้วที่มีความครอบครัวต้องเอาตัวรอด A Quiet Place: Day One จะพูดถึงคนแปลกหน้าที่ไม่มีอะไรเหมือนกัน แต่ก็มีบางอย่างที่คลิกกันได้อย่างประหลาด แซมที่เบื่อหน่ายชีวิตปลงแล้วกับความตายแต่ก็เป็นห่วงแมวจนตายไม่ได้ ขณะที่อีริคกลัวตายแบบสุดๆ แต่ก็ต้องการมีชีวิตอยู่เพื่อกลับไปหาพ่อแม่ที่อังกฤษ ทั้งสองคนสื่อสารกันด้วยคำพูดไม่มากนักตลอดทั้งเรื่อง แต่ด้วยภาษากาย สีหน้า หรือแววตา รวมไปถึงไดอาล็อกที่มีไม่มากกลับสามารถถ่าายทอดเรื่องราวระหว่างพวกเขาออกมาได้กินใจจนน่าทึ่งและสวยงาาม แม้ไปถึงจุดหนึ่งเราจะพอเดาชะตากรรมทั้งคู่ได้ลางๆ แต่หนังก็ยังมุ่งไปในทางนั้นเพราะมันคือทางลงที่เติมเต็มที่สุดจริงๆ
พาร์ทมอนสเตอร์เป็นส่วนที่ค่อนข้าง 2 จิต 2 ใจ เพราะมันแสดงออกถึงลายเซ็นต์อันแข็งแรงของแฟรนไชส์ A Quiet Place ชัดเจน เล่นกับความเงียบ ความอึดอัด ซีนมืดหรือมองไม่เห็น ก่อกำเนิดมวลบรรยากาศชวนไม่ให้รู้สึกว่าไว้วางใจใดๆ มาพร้อมเอเลี่ยนไร้ปราณีฆ่าเป็นฆ่าไม่มีลังเล แม้อาจไม่หนักมือเท่าภาคแรก แต่ด้วยบรรยากาศของเมืองใหญ่ก็สร้างอารมณ์ลุ้นในอีกแบบ เพราะตัวละครต้องพยายามแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไม่ได้มีอะไรที่เตรียมรับมือเอเลี่ยนไว้แต่แรก
แต่ก็เพราะมันแข็งแรงและหนังเลือกจะแสดงลายเซ็นต์ออกมาให้เห็นเต็มๆ มันจึงแอบน่าเสียดายที่เราไม่ได้เห็นการเล่าเรื่องในมุมอื่นๆ หรือการปรับรสชาติเป็นอีกแบบ เพราะจักรวาลนี้ยังมีสิ่งที่ไม่อธิบายอีกเยอะ และพอผ่านมา 3 ภาคการที่เราไม่ได้รู้ที่มาที่ไปของพวกเอเลี่ยนมากขึ้นจึงเป็นสิ่งที่ทำให้หงุดหงิดใจอยู่สักหน่อย แต่สำหรับบางคนมันอาจจะลบล้างได้ด้วยวีรกรรมน่ารักแสนซนของเจ้าโฟรโดที่หลายๆ ครั้งก็พางานเข้าให้แซมกับอีริคไม่พัก แต่ทำยังไงได้ เป็นทาสเขาก็คงโกรธไม่ลงหรอก
A Quiet Place: Day One แม้จะไม่ได้มีรสชาติที่ต่างไปจาก 2 ภาคก่อนหน้าาสักเท่าไหร่ แต่มันยังเป็นหนังคุณภาพที่เล่นกับมวลความอึดอัดลุ้นตัวเกร็งของคนดูได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากได้ดูในโรง IMAX ที่มีระบบเสียงรอบทิศ เวลาเอเลี่ยนเคลื่อนขบวนทีนี่อย่างครึกโครมเหมือนกับมันวิ่งอยู่รอบด้านเราจริงๆ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ต้องลองให้ได้ครับ สำหรับใครที่อยากได้ภาพยนตร์บรรยากาศชวนลุ้น หรือชอบ A Quiet Place อยู่แล้ว ภาคนี้ยังไงก็ห้ามพลาดครับ
Verdict
8/10
ดูรอบและสำรองที่นั่งได้ที่ – https://majorcineplex.com/movie/a-quiet-place-day-one
ขอขอบคุณ Major Cineplex สนับสนุนการรับชมภาพยนตร์
ติดตามข่าวหนังอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ Online Station