หลังจากมีข่าวออกมาว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ได้โหวตอนุมัติร่างกฎหมายที่อาจส่งผลให้แอป TikTok โดนแบนในอเมริกา หรืออาจจะส่งผลให้บริษัทแม่อย่าง ByteDance ต้องขายกิจการให้กับผู้อื่น ล่าสุดนี้ ซีอีโอของทาง TikTok อย่างคุณ Shou Zi Chew ก็ได้ออกมาตอบโต้ผลการโหวตในครั้งนี้อย่างดุเดือดว่าเป็นการตัดสินใจที่ “น่าผิดหวัง” จริง ๆ ค่ะ
ย้อนกลับไปในวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกาก็ได้โหวตอนุมัติร่างกฎหมายที่อาจส่งผลให้ ByteDance ต้องขายกิจการ TikTok ไม่ก็เสี่ยงโดนแบนในเขตประเทศสหรัฐอเมริกา โดยสาเหตุของการตัดสินใจในครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะข่าวลือที่ว่าทางบริษัท ByteDance นั้นอาจจะแอบเก็บข้อมูลผู้ใช้และส่งมันให้กับรัฐบาลจีนลับหลัง ซึ่งหากเป็นเรื่องจริง ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงระดับประเทศได้เลยทีเดียว นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เหล่าผู้มีอำนาจในสหรัฐฯ เป็นกังวลอย่างหนักจนต้องร่างกฎหมายดังกล่าวขึ้นค่ะ
แน่นอนว่าเมื่อได้ทราบข่าว ซีอีโอของ ByteDance อย่างคุณ Shou Chew ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความตอบโต้รัฐบาลสหรัฐฯ อย่างดุเดือดทันทีว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ “น่าผิดหวัง” เป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังหาว่านี่เป็นการทำให้ครีเอเตอร์จำนวนมหาศาลเสี่ยงตกงานกันด้วย
“ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราได้ลงทุนไปเป็นจำนวนมากเพื่อที่จะเก็บรักษาข้อมูลของพวกคุณเอาไว้อย่างปลอดภัย รวมถึงป้องกันไม่ให้แพลตฟอร์มของเราได้รับอิทธิพลจากภายนอกด้วย” คุณ Shou Chew กล่าว “เราขอยืนยันว่าเราจะทำแบบนั้นต่อไป”
TikTok’s CEO has responded after the US House passed a bill that could potentially ban the app pic.twitter.com/rq2Hw5hcqI
— Dexerto (@Dexerto) March 14, 2024
โดยคุณ Shou Chew อ้างว่าหากร่างกฎหมายที่ว่านี้ถูกนำมาบังคับใช้จริง ไม่เพียงแต่มันจะทำให้แอป TikTok โดนแบนในสหรัฐฯ เท่านั้น แต่มันจะเป็นเหมือนการมอบอำนาจให้กับผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียเจ้าอื่น ๆ ทั้งมันยังจะเป็นการฉกฉวยรายได้นับพันล้านออกไปจากกระเป๋าของเหล่าครีเอเตอร์และธุรกิจเล็ก ๆ จำนวนมาก นอกจากนี้ มันยังอาจทำให้ชาวอเมริกันกว่า 3 แสนรายต้องเสี่ยงตกงาน และเป็นการฉกชิงพื้นที่สำหรับแสดงออกไปจากผู้ใช้กว่า 170 ล้านรายค่ะ
อย่างไรก็ดี ทางสภาผู้แทนของสหรัฐฯ ก็ได้ออกมาชี้แจงว่ากฎหมายดังกล่าวไม่ได้มีเป้าหมายเป็นการแบนแอป TikTok ตรง ๆ หากแต่เป็นการกีดกันไม่ให้ทาง ByteDance เป็นเจ้าของกิจการต่อไปต่างหาก ทว่าสงครามในครั้งนี้จะดำเนินต่อไปอย่างไร ยังต้องรอติดตามกันต่อไปค่ะ
แปลและเรียบเรียงจาก
https://www.dexerto.com
ติดตามข่าวสารวงการบันเทิง ได้ที่ Online Station