GLAAD องค์กรอิสระจากสหรัฐอเมริกาที่ทำหน้าที่ติดตามสื่อต่าง ๆ ภายในประเทศ ได้เผยผลการวิจัยเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเกมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (13 กุมภาพันธ์) โดยผลที่ออกมานั้นมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้ครับ
- เกมเมอร์ที่เข้าร่วมทำการวิจัย มีอยู่ประมาณ 17% ของทั้งหมดที่เปิดเผยตนเองว่าเป็นกลุ่มเพศทางเลือก หรือ LGBTQ+ ซึ่งถือว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นจากงานวิจัยของทาง Gamer360 ที่ทำเอาไว้เมื่อปี 2020 ถึงประมาณ 10% เลยทีเดียว
- มีวิดีโอเกมอยู่ไม่ถึง 2% เท่านั้นที่มีเนื้อหาหรือตัวละครที่เกี่ยวข้องกับ LGBTQ+ ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อพิจารณาจากความเข้าใจของผู้คนในสังคมที่คิดว่าเกมที่มีเนื้อหาหรือตัวละครที่เกี่ยวข้องกับ LGBTQ+ มีมากจนผิดสังเกต
- กลุ่มผู้เล่นที่เป็น LGBTQ+ ให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยต่อตนเองทั้งทางร่างกายและความรู้สึกเป็นอย่างมาก ซึ่งในจำนวนเกือบ 70% ของผู้เล่นกลุ่มนี้ ถ้าเป็นไปได้จะไม่เลือกซื้อเกมที่พัฒนาโดยสตูดิโอที่เคยมีประวัติประพฤติตนไม่เหมาะสมกับพนักงานที่เป็น LGBTQ+ ด้วย
- ในจำนวนผู้เล่นที่เป็น LGBTQ+ มีอยู่ถึง 72% ที่เผยว่าเวลาเห็นตัวละครในวิดีโอเกมที่มีความหลากหลายทางเพศแล้วทำให้รู้สึกดีขึ้นกับตัวพวกเขาเอง
- กลุ่มผู้เล่นที่เป็น LGBTQ+ มีแนวโน้มจะซื้อเกมใดเกมหนึ่งมากกว่าคนที่ไม่ได้เป็น LGBTQ+ ถึง 1.4 เท่า ถ้าหากเกมนั้นเปิดโอกาสให้เล่นเป็นตัวละครที่มีเพศตรงกับอัตลักษณ์หรือรสนิยมของตัวเองได้
- งานวิจัยนี้เป็นการสุ่มตัวอย่างเกมเมอร์จำนวน 1,452 คนที่ชื่นชอบการเล่นวิดีโอเกมบนคอนโซลและพีซี โดยจัดทำกันระหว่างเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมปีที่แล้ว และเก็บผลการวิจัยผ่านแบบสอบถามที่ใช้เวลาเพียง 10 นาทีในการทำครับ
ขณะเดียวกัน คุณ Sarah Kate Ellis ประธานขององค์กร GLAAD ได้ตั้งข้อสังเกตจากผลวิจัยรอบนี้ว่า สำหรับกลุ่มผู้เล่นที่เป็น LGBTQ+ แล้วนั้น การเล่นเกมไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมสันทนาการที่เล่นเพื่อความบันเทิงหรือหลีกหนีจากความจริงครับ หากแต่มันยังเป็นช่องทางที่พวกเขาสามารถใช้แสดงความรู้สึกของตัวเองออกมาได้
แปลและเรียบเรียงจาก
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station