ก่อนที่จะนำเพื่อน ๆ ไปชมเนื้อหาในบทความนี้ ทาง Online Station ต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตจากเหตุโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเรือดำน้ำไททันซึ่งออกสำรวจซากเรือไททานิคในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยครับ
อนึ่ง ในโลกใต้ท้องทะเลนั้นนอกจากจะมีสิ่งมีชีวิตที่น่าศึกษาแล้วก็ยังมีอันตรายที่อยู่เบื้องล่างเต็มไปหมด หลัก ๆ เลยก็คือแรงดันน้ำอันมหาศาลที่ร่างกายมนุษย์ไม่อาจต้านทานได้ ทำให้การดำดิ่งสู่ห้วงทะเลลึกจึงจำเป็นต้องเดินทางด้วยเรือดำน้ำขนาดเล็กสถานเดียว และล่าสุดทางเพจ Diving Lovers ก็ได้นำเสนอรูปภาพกับคอนเทนต์ที่เป็นเกร็ดข้อมูลน่ารู้ถึงระดับความลึก ณ จุดต่าง ๆ ว่าระดับไหนที่มนุษย์เคยลงไปถึง และระดับไหนที่เคยมีซากเรือชื่อดังจมอยู่ ลองมาชมที่ด้านล่างกันเลย
(ถ้าหากเพื่อน ๆ คนไหนอยากทราบข้อมูลระดับความลึกที่ละเอียดกว่านี้ พร้อมด้วยบรรยากาศเหมือนเราได้ดำดิ่งลงไปในเบื้องลึกของมหาสมุทรจริง ๆ สามารถแวะชมได้ที่เว็บไซต์ https://neal.fun/deep-sea/ ครับ)
40 เมตร: เป็นความลึกสูงสุดที่มนุษย์สามารถดำแบบ Scuba เชิงกิจกรรมสันทนาการได้ ซึ่งถ้าลึกกว่านั้นจะไม่เป็นที่แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปครับ
93 เมตร: ระดับความลึกที่เรือ Lusitânia สัญชาติอังกฤษจมลงเมื่อปี 1915 โดยตัวเรือดังกล่าวมีความยาว 240 เมตร นั่นหมายความว่าถ้าวางเรือในแนวตั้ง กว่าครึ่งของลำตัวเรือจะโผล่พ้นผิวน้ำได้นั่นเอง
100 เมตร: เป็นระดับความลึกที่เป็นอันตรายกับร่างกายมนุษย์อย่างยิ่ง คนที่ดำลงไปถึงระดับนี้จะเริ่มมีอาการของ Decompression Syndrome หรือ Decompression Sickness (DCS) ที่ร่างกายจะเกิดความไม่สมดุลทั้งภายในและภายนอก จนอาจเกิดฟองอากาศในเลือดหรือเนื้อเยื่อ ซึ่งเป็นอาการที่นักดำน้ำจำนวนไม่น้อยพบเจอเวลาอยู่ในน้ำลึกเป็นระยะเวลาหนึ่ง
214 เมตร: เฮอร์เบิร์ต นิตช์ (Herbert Nitsch) นักดำน้ำชาวออสเตรียเคยสร้างสถิติลงไปถึงระดับความลึกนี้โดยไม่มีอุปกรณ์ประดาน้ำติดตัวเมื่อปี 2007 ซึ่งตอนที่เจ้าตัวลงไปต้องใช้ทุ่นถ่วงน้ำหนักบริเวณศีรษะและท่อนขาเพื่อให้การดำลงไปถึง 214 เมตรเป็นไปอย่างรวดเร็ว (ภายหลังเจ้าตัวทำลายสถิติของตัวเองด้วยระดับความลึก 253 เมตรในปี 2012 และได้รับการบันทึกลงกินเนสเวิลด์เรคคอร์ด ณ เวลานั้นด้วย)
250 เมตร: เรือดำน้ำของกองทัพนาซีเยอรมันเคยแล่นบนระดับความลึกนี้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
332 เมตร: สถิติของ Herbert Nitsch ครองแชมป์อยู่ได้เพียง 2 ปีก็ถูกทำลายอีกครั้งโดย Ahmed Gabr นักดำน้ำชาวอียิปต์ที่สามารถดำลงไปได้ถึง 332 เมตรในเดือนกันยายน 2014 โดยเจ้าตัวเลือกดำที่ทะเลแดง ซึ่งอยู่ระหว่างทวีปเอเชียโซนตะวันออกกลางและทวีปแอฟริกาตอนบนครับ และสวมอุปกรณ์ดำน้ำมาด้วย
500 เมตร: ความลึกสูงสุดที่วาฬสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกดำลงไปได้ และยังเป็นความลึกสูงสุดที่เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์จะแล่นได้อย่างปลอดภัยด้วยเช่นกัน
535 เมตร: ความลึกสูงสุดที่เพนกวินจักรพรรดิ (Emperor Penguin) สามารถดำลงไปได้
750 เมตร: ในระดับความลึกนี้จะเป็นที่สามารถพบหมึกยักษ์ (Giant Octopus) ที่สามารถเปลี่ยนสีผิวเป็นสีแดงได้ในยามที่มันรู้สึกโกรธหรือไม่พอใจครับ
828 เมตร: ระดับความสูงของ Burj Khalifa ที่เป็นตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน ซึ่งตั้งอยู่ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
1,000 เมตร: เป็นจุดที่แสงอาทิตย์ไม่สามารถส่องลงมาได้ โดยบรรยากาศจากระดับความลึกนี้เป็นต้นไปจะมืดสนิท และแรงดันน้ำที่ระดับนี้จะบดขยี้ร่างกายมนุษย์ได้อย่างง่ายดาย ขณะเดียวกันก็ยังเป็นระดับความลึกที่หมึกกล้วยขนาดยักษ์ (Giant Squid) อาศัยอยู่ครับ
1,280 เมตร: ระดับความลึกสูงสุดที่เต่ามะเฟือง (Leatherback Turtle หรือ Lute Turtle) สามารถดำลงไปได้ โดยเต่าพันธุ์นี้สามารถดำน้ำได้นานถึง 85 นาทีโดยที่ไม่ต้องหายใจเลย
2,250 เมตร: ที่ระดับความลึกนี้เป็นจุดที่วาฬหัวทุย (Sperm Whale) จะทำการออกล่าหมึกกล้วยยักษ์ โดยบาดแผลตามร่างกายของวาฬหัวทุยก็มักจะมาจากการต่อสู้กับหมึกกล้วยยักษ์นั่นเอง
3,800 เมตร: ระดับความลึกที่ไททานิค (Titanic) อดีตเรือสำราญลำใหญ่ที่สุดในโลกได้จมดิ่งลงไปยังเบื้องล่างของมหาสมุทรแอตแลนติกตั้งแต่เดือนเมษายนปี 1912 โดยขณะนั้นเรือได้แล่นออกจากท่าเรือเซาธ์แฮมป์ตันของประเทศอังกฤษ เพื่อมุ่งหน้าไปยังกรุงนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ได้เกิดอุบัติเหตุเรือพุ่งชนก้อนน้ำแข็งจนอัปปางลงเสียก่อน จนทำให้มีผู้โดยสารเสียชีวิตถึงกว่า 1,500 คน (จากทั้งหมด 2,224 คน)
4,000 เมตร: เข้าสู่ดินแดนลี้ลับที่ระดับก้นมหาสมุทร สัตว์น้ำที่อาศัยในโซนนี้จะมีรูปลักษณ์ที่ดูแตกต่างจากสัตว์น้ำที่อยู่ระดับความลึกบน ๆ อย่างเห็นได้ชัด ปลาบางชนิดไม่มีดวงตา เนื่องจากจุดที่มันอยู่นั้นไม่มีแสงอาทิตย์ส่องลงมาถึง จึงไม่จำเป็นต้องใช้สายตาในการมอง ขณะที่ปลาบางชนิดก็มีลูกเล่นที่สามารถสร้างจุดกำเนิดแสงในตัวได้ เป็นต้น
4,267 เมตร: เป็นค่าเฉลี่ยความลึกของมหาสมุทรทั่วโลก บางแห่งลึกไม่ถึง บางแห่งลึกกว่านี้ ซึ่งถ้าลงลึกไปกว่านั้นก็จะยิ่งมีความพิศวงและอันตรายเพิ่มเป็นทวีคูณ
6,000 เมตร: ระดับความลึกนี้มีชื่อเรียกว่า Hadal Zone โดยขนานนามตามชื่อของเฮดีส (Hades) ที่เป็นเทพแห่งโลกใต้พิภพจากตำนานกรีก แรงกดดันของน้ำที่อยู่ระดับนี้จะอารมณ์เหมือนมีเครื่องบินโบอิ้ง 747 จำนวน 50 ลำบินอยู่เหนือศีรษะเราเลย
6,500 เมตร: เรือดำน้ำสำรวจซากเรือไททานิคที่มีชื่อว่า DSV Alvin สามารถดำลงมาได้ลึกสุดที่ระดับความลึกนี้ โดย DSV Alvin สามารถบรรทุกได้ 3 คน (คนขับ 1 คนและนักสำรวจอีก 2 คน) เริ่มใช้ออกปฏิบัติการมาตั้งแต่ปี 1964 และปัจจุบันก็ยังมีการนำมาใช้บรรทุกนักสำรวจเพื่อศึกษาโลกใต้ท้องทะเลลึกอยู่
6,895 เมตร: จุดที่พบซากเรือรบ USS Samuel B. Roberts ของกองทัพสหรัฐฯ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่นอนอยู่ก้นมหาสมุทรแปซิฟิก โดยเพิ่งจะมีการพบซากเรือนี้เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2022 ซึ่งการค้นพบนี้ได้ทำให้ USS Samuel B. Roberts กลายเป็นซากเรือที่จมลงยังจุดที่ลึกที่สุดในโลก ทำลายสถิติลึกกว่าเรือรบ USS Johnston ที่จมลึก 6,468 เมตรลงอย่างราบคาบ
8,848 เมตร: ความสูงของยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก ถ้านำเขาเอเวอเรสต์มาคว่ำหัว บริเวณยอดเขาก็จะลงมาถึงระดับความลึกนี้ครับ
10,898 เมตร: เป็นระดับความลึกที่ เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังเคยลงมาถึงเมื่อปี 2012 โดยระยะเวลาการล่องเรือดำน้ำในทริปนั้นกินเวลาเพียง 3 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าตัวต้องการลงมาสำรวจโลกใต้ทะเลอันมืดมิด พร้อมกับนำฟุตเทจภาพแบบ 3 มิติที่ได้จากการสำรวจนี้ไปใช้ประกอบในหนังสารคดี Deepsea Challenge 3D ที่ฉายในปี 2014 ทั้งนี้ เจมส์ คาเมรอน ถือเป็นมนุษย์คนที่ 3 ที่สามารถลงมาถึงจุดความลึกเกือบ 11 กิโลเมตร และยังเป็นคนแรกของโลกที่ลงมาในแคปซูลสำรวจเพียงคนเดียวด้วย (ก่อนหน้านี้ 2 คนแรกเดินทางลงมาพร้อมกัน)
10,916 เมตร: ฌัก พิกการ์ด (Jacques Piccard) นักสมุทรศาสตร์ชาวเบลเยียม และ ดอน วอล์ช (Don Walsh) นักสมุทรศาสตร์ชาวสหรัฐฯ ได้ร่วมเดินทางด้วยเรือดำน้ำลงไปถึงความลึกระดับนี้เมื่อปี 1960 โดยพวกเขาอยู่สำรวจในความลึกดังกล่าวได้เพียง 20 นาทีก็ต้องรีบไต่ระดับกลับขึ้นไปอย่างรวดเร็วเสียก่อน เนื่องจากกระจกของเรือดำน้ำเกิดอาการสั่นอย่างรุนแรง รวมระยะเวลาที่ทั้งคู่อยู่ใต้น้ำคือ 5 ชั่วโมง
10,994 เมตร: จุดที่มีรอยแตกของพื้นผิวโลก และนี่คือจุดที่ลึกที่สุดเท่าที่เคยมีการศึกษากันมาบนโลกใบนี้ครับ
(ล่าง) ตัวอย่างหนัง Deepsea Challenge 3D ของเจมส์ คาเมรอน
แปลและเรียบเรียงจาก
ติดตามข่าวสารวงการบันเทิง ได้ที่ Online Station