ยิ่งใกล้วันวางจำหน่ายเรายิ่งได้เห็นการโปรโมตสุดถี่ยิบของตัวเกม Final Fantasy 16 นะครับ ซึ่งก็อาจไม่น่าแปลกใจนัก เพราะนี่คือภาคที่หลายๆ คนคาดหวังอย่างมากด้วยองค์ประกอบหลายๆ ตั้งแต่ทีมงานสุดหัวกะทิของบริษัทที่มาร่วมโปรเจกต์ หรือการบอกว่าธีมของมันจะ “ผู้ใหญ่” ที่สุดในซีรีส์ รวมไปถึงการปรับรูปแบบเกมเพลย์เป็นแอคชั่นเต็มตัว ก็เป็นเหตุให้หลายๆ คนได้กลิ่นความสดใหม่ของมัน และรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวรอเล่นมันแทบไม่ไหว
อย่างไรก็ตามทาง Square Enix ก็ได้มีการปล่อยเดโมออกมาให้เล่นกันก่อน เพื่อเป็นการโหมโรงและต้อนรับการกลับมาของ Final Fantasy ภาคหลักกันอีกครั้ง โดยดูเหมือนว่าเดโมตัวนี้จะเป็นช่วงแรกของเกมเลย เพราะสามารถเก็บเซฟไปเล่นต่อในเกมหลักได้ อย่างไรก็ตามต้องบอกว่ามันคือบทโหมโรงที่ดี เพราะแม้คนที่ดูเทรลเลอร์มาหลายตัวอาจจะพอเดาได้ว่าเดโมจะจบตรงไหน แต่สิ่งที่ได้เห็นจริงๆ ก็ค่อนข้างเหนือกว่าที่คิดไว้ และทำให้อยากเล่นเกมตัวเต็มต่อแบบทันทีทันใด
เนื้อเรื่อง
เนื้อเรื่องจะพูดถึง Clive ทหารอีโมสุดขรึมกับแก๊งค์เพื่อนทหารที่มาทำภารกิจบางอย่างโดยกะอาศัยช่วงชุลมุนของสงคราม 2 ฝ่ายเพื่อแฝงตัวและทำภารกิจ แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่คิดจากการสู้กันของ Eikon 2 ตัวที่ทำเอาทั่วบริเวณราบเป็นหน้ากลอง ขณะที่กลุ่มของ Clive ก็โดนร่างแหไปด้วย จนเจ้าตัวสลบไป และรำลึกถึงอดีตที่ทั้งน่าจดจำ มืดหม่น และชวนให้ระทมจิต
เนื้อเรื่องคือส่วนที่ผมมองว่าแข็งแรงที่สุดในเดโมนี้ และจะยินดีอย่างมากถ้ามันแข็งแรงขนาดแบกเกมตัวเต็มได้ มันคือส่วนที่ผมชอบที่สุด แม้คัตซีนจะยาวแต่ก็มีความหมายในตัวมัน ไดอาล็อกคำพูด หรือซีนย่อยๆ ต่างๆ มันจะค่อยๆ ประกอบรวมกันจนส่งอารมณ์ในฉากจบเดโมได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้มันยังให้ความรู้สึกในภาพรวมว่าภาคนี้มีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นจริงๆ การเซ็ตโทนที่ตึงเครียด ปัญหาการเมือง สงคราม โศกนาฎกรรมที่เลือดเป็นเลือด ตายเป็นตาย มันสดใหม่และแปลกตาสำหรับ Final Fantasy เอามากๆ
เสียง
Final Fantasy 16 เน้นในด้านเพลงประกอบแน่ๆ เพราะแม้จะในเดโม พวกเขาก็ยังจัดเต็มไม่มีกั๊ก และหลายๆ เพลงก็ช่วยในการไดร์ฟอารมณ์ผู้เล่นได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะช่วงที่ Eikon ซัดกันนัว ขณะที่เสียงประกอบอาจจะยังบอกอะไรมากไม่ได้ เพราะส่วนที่มีให้เล่นก็อาจไม่ได้มากมายอะไร แต่เท่าที่ได้ยินก็คงทำได้ตามมาตรฐาน ยังไม่รู้สึกว่าโดดเด่นอะไรนัก แต่ก็ไม่แย่ ที่อาจจะน่าหงุดหงิดสำหรับเดโมไปสักหน่อยก็คือการปรับเสียงเป็นภาษาอื่นแล้วดูเหมือนจะไม่ค่อยตรงปากนัก ไม่ค่อยซิงค์กันเท่าที่ควร ขณะที่เสียงพากย์อังกฤษดูจะไม่มีปัญหาอะไร ก็หวังใจว่าในเกมตัวหลักส่วนนี้จะได้รับการปรับปรุง ไม่งั้นมันจะเป็นปัญหาที่ชวนรำคาญใจไม่น้อยอย่างแน่นอน
กราฟิก
ด้วยความที่ Final Fantasy 16 นั้นไม่ลงคอนโซลเจนเก่าเลย ทำให้ทีมพัฒนาสามารถจัดเต็มเรื่องกราฟิกได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เราจะได้เห็นรายละเอียดเรื่องแสงเงาที่ดีขึ้น ออบเจ็คที่ดีเทลดูดีไม่มีหลอกตา ทว่าส่วนตัวยังรู้สึกว่ามันยังไม่ให้ภาพที่ดูยิ่งใหญ่ได้เท่าที่ควร คือมันอาจจะเพราะเดโมมีฉากอยู่ประมาณนั้น โอเคล่ะว่าซีเควนส์แรกมันใหญ่จริง แต่ถ้าลองสังเกตุในจุดที่วิ่งหรือมีปฏิสัมพันธ์ได้มันจำกัดจำเขี่ยมากๆ รวมไปถึงการทำจุดเนียนโหลดฉากในหลายๆ ส่วนที่เอาเข้าจริงฉากที่มีมันก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น เกมอื่นในเจนเดียวกันเเทบจะชูเรื่อง Seamless experience กันหมดแล้วจาก SSD สุดแรงของ PS5 แต่กับ Final Fantasy 16 บางครั้งแค่จะเอาโพชั่นขวดเดียว กลับต้องแทรกตัวเข้าไปในห้องเพื่อเนียนโหลดฉากสักหน่อย รู้สึกว่าไม่เมคเซนส์แปลกๆ คือในเกมตัวเต็มมันคงมีฉากกว้างๆ ให้โชว์พลังกราฟิกแน่ๆ ล่ะ แต่ถ้าต้องโหลดบ่อยจนเกมเพลย์มีสะดุดเรื่อยๆ แบบนี้ก็เป็นจุดที่น่าตั้งข้อสังเกตเหมือนกัน ยังมีเรื่องของเฟรมเรตที่แกว่งและไม่นิ่งอีกต่างหากแม้จะเล่นในโหมด Performance แล้วก็ตาม หวังว่าจะได้รับการปรับปรุงในตัวเต็ม
เกมเพลย์
จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดของซีรีส์ก็คือเกมเพลย์ที่เปลี่ยนมาเป็นแอคชั่นเต็มตัว และทางทีมพัฒนาก็ตั้งใจมากๆ เพราะพวกเขาดูเหมือนจะรู้จุดคริติคอลพ็อยต์ของตัวเกม จึงใช้คนที่มีประสบการณ์มาออกแบบในส่วนนี้ และมันมีแนวโน้มที่ดี ผมขอให้คำนี้แล้วกัน เพราะด้เวยความที่มันไม่ยากจนเกินไปนัก ทำให้แฟนเก่าๆ ที่คุ้นชินกับระบบ Turn Base ไม่ต้องปรับตัวเพื่อรัวปุ่มต่อคอมโบมากนักก็สามารถผ่านได้ แต่มันก็เป็นข้อเสียพร้อมๆ กันเพราะความกลางๆ ของมันแลละทำให้ผู้เล่นบางส่วนรู้สึกว่าแอคชั่นมันยังไปไม่สุดนัก แม้กระนั้นทุกสิ่งทุกอย่างในเดโมก็เป็นแค่ส่วนเสี้ยวเดียวของเกม และเราอาจจะพบเจอความท้าทายมากยิ่งขึ้นในเกมหลัก
แต่จุดสังเกตจริงๆ อาจเป็นตรงที่การเน้น QTE หรือการเปิดประตูบางจุดที่เรียกร้องปฏิสัมพันธ์จากผู้เล่นมากกว่าแค่กดเปิดทั้งๆ ที่พัซเซิลก็ไม่ใช่ ซึ่งมันทำให้เกมเพลย์ขาดความต่อเนื่องไปเหมือนกัน นับรวมไปถึงฉากซัดกันของ Eikon ที่จะออกแบบมาแบบนี้มันก็เข้าใจได้ แต่แอบรู้สึกว่ามันนานไปสักหน่อย ตอนแรกมันก็ตื่นเต้นดี ทว่าพอเริ่มรู้สึกว่าไม่ท้าทายแถมยังใช้เวลานาน มันก็จะพาลเบื่อเอาได้ หวังว่าในตัวเกมเต็มจะมีความหลากหลายในการสู้กันของ Eikon มากกว่านี้ครับ
ในภาพรวมของ Final Fantasy 16 DEMO ต้องบอกว่าเป็นเดโมที่ดีเลยครับ ดีทั้งในการเซ็ตโทน ดีทั้งในการจูงมือผู้เลนเข้าสู่เวิร์ลเซ็ตติ้งของเกม และดีทั้งในแง่ของการตัดสินใจว่าภาคนี้มันจะใช่สำหรับเราหรือไม่ มันคือเดโมที่สมกับการเป็นเดโม และใครที่สนใจเกมอยู่ก็ควรโหลดมาลองเล่นจริงๆ ครับ ขอยังไม่ให้คะแนน แต่บอกตรงนี้เลยว่ารอตัวเต็มไม่ไหวแล้วล่ะ!
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station