Alone in the Dark เผยนักแสดงโมแคปในเกม พร้อมตอบทุกข้อสงสัยโดยผู้พัฒนา

Alone in the Dark

จากที่เคยมีการเปิดตัวเกม Alone in the Dark ภาคใหม่ไปในงานโชว์เคสของ THQ Nordic เมื่อกลางปีที่แล้ว ล่าสุดก็มีการเผยข้อมูลเพิ่มเติมในวันนี้แล้วนะครับว่าตัวละครหลักของเกม ได้แก่ เอ็ดเวิร์ด คาร์นบี้ (Edward Carnby) และ เอมิลี่ ฮาร์ตวู้ด (Emily Hartwood) นั้นได้สองนักแสดงชื่อดังอย่างเดวิด ฮาร์เบอร์ (David Harbour) และโจดี้ โคเมอร์ (Jodie Comer) มาเป็นต้นแบบใบหน้าและทำโมชั่นแคปเจอร์ให้กับสองตัวละครดังกล่าวด้วย

และในโอกาสที่ทางตัวเกมมีการประกาศวันวางจำหน่ายพอดี ซึ่งก็ได้ฤกษ์คือวันที่ 25 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ทางทีมงาน Online Station เองก็ได้มีโอกาสเข้าร่วมสัมภาษณ์ตัวแทนผู้พัฒนาเกมนี้ ได้แก่คุณ Andreas Schmiedecker ตำแหน่ง Associate Producer ที่ยินดีตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวเกม และข้อมูลอัปเดตที่เพิ่งปล่อยออกมาให้ชมกันในรอบนี้ครับ มาชมกันโลด!

(ล่าง) คลิป Alone in the Dark จากงาน Spotlight


  • คุณ Schmeidecker กล่าวว่า ด้วยความที่เกม Alone in the Dark เคยเป็นหนึ่งในเกมต้นแบบของยุคนั้น และสร้างตำนานและประวัติศาสตร์บทสำคัญไว้มากมายแก่วงการเกมแนวสยองขวัญ ทีมงานจึงมองว่าจุดที่ท้าทายที่สุดของการพัฒนาเกมนี้คือการส่งมอบประสบการณ์การเล่นที่ชวนศรัทธาต่อเกมตัวออริจินัล และน่าตื่นเต้นไปยังผู้เล่นหน้าใหม่ให้ได้ ซึ่งทีมงานทั้งหมดล้วนเป็นแฟนเกมนี้ในเวอร์ชั่นออริจินัลปี 1992 แถมยังชื่นชอบงานต่าง ๆ ของคุณ Frederick Reynal ที่เป็นผู้สร้างซีรีส์นี้อีกเช่นกัน และคุณ Reynal ก็ยินดีช่วยเหลือในการให้คำปรึกษาและอนุมัติให้ทีมงานนำพาเรื่องราวและเมคานิกของเกมมานำเสนอในเกมเวอร์ชั่นใหม่นี้ด้วย
  • ขณะเดียวกัน ใครที่เคยเล่นเกมเวอร์ชั่นออริจินัลมาก่อนคงทราบดีว่าตัวเกมเวอร์ชั่นนั้นสั้นมาก แต่ในเวอร์ชั่นใหม่นี้ทีมงานมีการปรับปรุงและตั้งเป้าตอนพัฒนาว่าต้องเป็นเกมที่สามารถเล่นได้ประมาณ 6-10 ชั่วโมงต่อรอบ และหากจะได้รับประสบการณ์จากเกมนี้ครบถ้วน ก็ควรต้องเล่นเกมนี้จนจบอย่างน้อย 2 รอบ (เอ็ดเวิร์ด 1 รอบ และเอมิลี่ 1 รอบ) ครับ
  • ทีมงานมีการสร้างเกมนี้โดยคำนึงถึงประสบการณ์การเล่นที่จะส่งถึงผู้เล่นหน้าเก่าที่เคยเล่นเวอร์ชั่นออริจินัลปี 1992 มาก่อน และผู้เล่นหน้าใหม่ที่เพิ่งมาจับซีรีส์นี้เป็นครั้งแรกกับภาคนี้เลย โดยมีการแฝงคำใบ้ อีสเตอร์เอ้กต่าง ๆ ที่ชวนนึกถึงเวอร์ชั่นออริจินัลให้แก่ผู้เล่นหน้าเก่า ขณะที่ผู้เล่นหน้าใหม่ก็ยังเล่นเกมนี้ได้สนุกและเข้าใจเรื่องราวของเกมนี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องเล่นเวอร์ชั่นออริจินัลมาก่อน
  • ตัวเกมยังมีการคงไว้ซึ่งองค์ประกอบต่าง ๆ ที่เคยทำให้เกมนี้ได้รับความนิยมในอดีต ไม่ว่าจะช่วงของการสำรวจ การแก้ปริศนา ระบบต่อสู้ที่ลุ้นระทึก และเนื้อเรื่องที่ลึกและเข้มข้น โดยในแง่ของการดำเนินเรื่องนั้น ทีมงานได้ดึงเดวิด ฮาร์เบอร์ และโจดี้ โคเมอร์ สองนักแสดงชื่อดังที่มีผลงานทั้งภาพยนตร์และซีรีส์มาแล้วมากมายมาแสดงบทสองตัวละครนำ และทำโมชั่นแคปเจอร์ใบหน้ากับพากย์เสียงเพื่อสื่ออารมณ์ผ่านคำพูดและสีหน้า ส่วนทางด้านเกมเพลย์ก็มีการปรับมาใช้มุมกล้องแบบมองจากด้านหลังและการเล็งอาวุธผ่านหัวไหล่เหมือนเกมยุคปัจจุบัน และมุมกล้องที่ว่านี้ก็ได้แรงบันดาลใจมาจาก Resident Evil 2 และ Resident Evil 3 เวอร์ชั่นรีเมค รับรองได้ถึงความมันส์ และพร้อมให้แฟน ๆ ทั้งหน้าเก่าและใหม่ได้สัมผัสกันแล้ว
  • เนื้อเรื่องของเอ็ดเวิร์ดกับเอมิลี่จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ฟากของเอ็ดเวิร์ดจะให้ฟีลของนักสืบที่ค่อย ๆ แกะรอยและปะติดปะต่อเรื่องราวไปทีละเปลาะในฐานะนักสืบที่ถูกจ้างมา ส่วนทางเอมิลี่จะมีความเชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องในทางตรงมากกว่า เพราะเธอต้องการตามหาลุงที่หายตัวไปให้เจอ พร้อมทั้งต้องเผชิญหน้ากับคำสาปอันลึกลับของตระกูลตัวเอง ทำให้ในแต่ละคัตซีนที่ทั้งสองตัวละครนี้เจอจะไม่เหมือนกัน ตลอดจน NPC ที่ได้มีปฏิสัมพันธ์ก็จะมีท่าทีต่อตัวละครทั้งสองที่แตกต่างกันด้วย
  • ในวันที่เพื่อน ๆ ได้อ่านบทความนี้ (26 พฤษภาคม) ทางทีมงานก็ได้มีการปล่อย “บทนำ” ของเกมภาคใหม่นี้มาให้ทุกคนได้เล่นกันฟรี ๆ บนทุกแพลตฟอร์ม (PS5, Xbox Series X|S และ PC) โดยเป็นเนื้อหาสั้น ๆ ความยาวประมาณ 15-20 นาทีให้ได้รู้ถึงช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ในเกมตัวหลัก และเรียนรู้บรรยากาศเบื้องต้นของเกมด้วยนิดหน่อย ซึ่งจะมีการสำรวจหาไอเทมเล็กน้อย พ่วงปริศนาแบบพื้น ๆ ให้ลองแก้กันดูครับ

ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้