จากแฟ้มเหตุการณ์จริงของหลวงพ่อ “เกเบรียล อามอร์ธ” หัวหน้ามือปราบผีแห่งนครวาติกันที่เคยทำพิธีไล่ผีร้ายมาแล้วกว่าแสนครั้ง!
The Pope’s Exorcist โป๊บปราบผี เรื่องราวของอามอร์ธ ตัวท็อปมือปราบผี นำแสดงโดย “รัสเซล โครว์” (เจ้าของรางวัลออสการ์) เมื่อต้องเข้าไปสืบเรื่องราวสุดสะพรึงของเด็กชายคนหนึ่งที่ถูกผีร้ายเข้าสิง ความสยองขั้นสุด กับความลับยาวนานหลายร้อยปีที่วาติกันพยายามปิดซ่อนไว้
ด้วยแรงบันดาลใจจากแฟ้มเหตุการณ์จริงเกี่ยวกับ บาทหลวงกาเบรียล อามอร์ธ หัวหน้านักปราบผีแห่งนครวาติกัน The Pope’s Exorcist เล่าเรื่องของ อามอร์ธ (รัสเซล โครว์ เจ้าของรางวัลอคาเดมี อวอร์ด) ในตอนที่เขาสืบเรื่องของการถูกปีศาจเข้าสิงที่น่าสะพรึงกลัวของเด็กชายคนหนึ่ง แต่สุดท้าย เขากลับได้เปิดโปงการสมคบคิดยาวนานหลายร้อยปีที่วาติกันพยายามอย่างเหลือเกินที่จะซ่อนไว้
ข้อมูลงานสร้าง
สกรีน เจมส์ ร่วมกับ 2.0 เอนเตอร์เทนเมนต์ ภูมิใจเสนอ ผลงานสร้างโดย 2.0 เอนเตอร์เทนเมนต์/โลโยลา โปรดักชันส์ ภาพยนตร์โดยจูเลียสเอเวอรี The Pope’s Exorcist นำแสดงโดยรัสเซล โครว์, แดเนียล โซวัตโต้, อเล็กซ์ เอสโซและฟรังโก้ นีโร กำกับโดยจูเลียส เอเวอรี อำนวยการสร้างโดยดั๊ก เบลเกรด, ไมเคิล แพทริค แค็กซ์มาเร็ค และเจฟฟ์ แคทซ์ บทภาพยนตร์โดยไมเคิล เพโทรนีและอีวาน สปิลิโอโทปูลอส เรื่องราวภาพยนตร์โดยอาร์. ดีน แม็คครีรี & เชสเตอร์ เฮสติ้งและเจฟฟ์แคทซ์ จากหนังสือเรื่อง “An Exorcist Tells His Story” และ “An Exorcist: More Stories” โดย บาทหลวงกาเบรียล อามอร์ธ ผู้ควบคุมงานสร้างได้แก่โจ โฮมวู้ด, โซฟี คาสสิดี้และเอ็ดเวิร์ด เจ. ซีเบิร์ต, เอสเจ ผู้กำกับภาพคือคาลิด โมห์ตาเซ็บ ผู้ออกแบบงานสร้างคืออลัน กิลมอร์ มือลำดับภาพคือแมทท์ อีวานส์ ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายคือลอร์นา มารี มูแกน ดนตรีโดยเจ๊ด เคอร์เซล ไร้ความเห็นใจต่อปีศาจ
สำหรับคนหลายพันคน บาทหลวงกาเบรียล อามอร์ธ ผู้ที่บางคนรู้จักในนามของคณบดีนักปราบผี และที่หลายๆ คนรู้จักในนามนักปราบผีแห่งวาติกัน คือแสงสว่างในความมืดมิด บาทหลวงอามอร์ธ ชายผู้ทำการไล่ผีหลายพันครั้งเพื่อศาสนา เป็นนักรบศักดิ์สิทธิ์แนวหน้าในสงครามต่อสู้กับปีศาจร้าย ที่เขาได้บันทึกเรื่องการต่อสู้ของเขาในอนุทินสองเล่ม ที่ถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ นอกเหนือเหตุการณ์น่าขนลุก เพื่อสำรวจภัยคุกคามมนุษยชาติ ที่เกิดจากปีศาจร้ายบัดนี้ การผจญภัยของบาทหลวงอามอร์ธจะโลดแล่นบนหน้าจอเป็นครั้งแรกใน The Pope’s Exorcist บทนักบวชในตำนานผู้นี้แสดงโดยรัสเซล โครว์ เจ้าของรางวัลออสการ์ “ในวาติกัน มีตำแหน่งจริงๆ ที่เรียกว่าหัวหน้านักปราบผีครับ” เขาอธิบาย “บาทหลวงกาเบรียล อามอร์ธเป็นคนจริงๆ ผู้ครองตำแหน่งนั้นมา 36 ปี และเกี่ยวข้องกับการไล่ผีหลายหมื่นครั้ง”
แล้วเมื่อคุณทำอะไรบางอย่างเป็นพันๆ หมื่นๆ ครั้ง คุณก็จะเกิดความชำนาญมากๆ ไม่มีนักล่าปีศาจคนไหนที่เก่งกว่าบาทหลวงอามอร์ธอีกแล้ว…และเราก็ต้องการเขาในการต่อสู้กับปีศาจของเขา “ผู้กำกับของเรา จูเลียส เอเวอรี มักพูดถึงหนังเรื่องนี้ว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างสุดยอดผู้ล่าสองฝ่าย นั่นคือปีศาจและบาทหลวงอามอร์ธครับ” ผู้อำนวยการสร้างดั๊ก เบลเกรด ในภาพยนตร์เรื่องนี้ อามอร์ธเป็นทั้งชายผู้มีศรัทธาแน่วแน่ทางศาสนาและเป็นนักสืบสวนในแบบที่กัดไม่ปล่อย ขณะที่เขาหมายมั่นที่จะดำเนินการหนึ่งในการขับไล่ผีที่ดื้อด้านที่สุดในอาชีพที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของเขา นักบวชผู้นี้จะค้นพบความจริงเบื้องหลังความลับที่ถูกซ่อนเอาไว้หลายร้อยปี และเปิดโปงการสมคบคิดที่ยิ่งใหญ่กว่า แม้จะได้รับคำเตือนจากวาติกันก็ตามที “ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเป็นคนที่มีศรัทธาอย่างลึกซึ้ง แต่แน่นอนว่าเขาเป็นคนที่มีความนึกคิดอิสระครับ” โครว์กล่าว “เขามุ่งมั่นที่จะเป็นคนเปิดกว้างและเปิดเผย เขาไม่เกรงกลัวความผิดพลาดของมนุษยชาติ เขายอมรับข้อบกพร่องและความแปลกประหลาดของมนุษย์ความซื่อสัตย์จากสัญชาตญาณของเขาช่วยเขาในการทำงานนี้ครับ”
“เขาเป็นหนึ่งในพวกเกเรภายในสถาบัน เป็นคนนอกคอกที่ท้าทายสถานภาพที่เป็นอยู่เดิมครับ” ผู้กำกับจูเลียส เอเวอรีกล่าว “ผมชื่นชมเรื่องนั้น ระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งหัวหน้านักปราบผีแห่งวาติกัน เขาเป็นคนที่สร้างเสียงอื้อฉาวมากๆ เพราะเขาพูดออกมา เขาเป็นตัวละครที่น่าสนใจมากๆ ครับ”
เอเวอรีกล่าวว่า อามอร์ธเป็นตัวละครที่โดดเด่นจากความเชื่อที่ดูเหมือนจะขัดแย้งกัน แต่จริงๆ แล้ว สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง เขาเป็นคนที่ได้รับการศึกษาสูง เป็นคนช่างสงสัยที่เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาสมัยใหม่ แต่ก็เป็นผู้มีความศรัทธาแน่วแน่ในพลังของพระเจ้า และปีศาจด้วย “ผมเชื่อว่า 98% ของทุกอย่างสามารถใช้วิทยาศาสตร์อธิบายได้ครับ” เอเวอรีกล่าว “แต่มีอีก 2% ที่อธิบายไม่ได้ และนั่นคือสิ่งที่เราสำรวจในหนังเรื่องนี้ครับ”
“ดังนั้น หลายคนก็เลยมาขอความช่วยเหลือจากเขา และสำหรับคนส่วนใหญ่เขาก็ส่งต่อไปให้ได้รับการรักษาทางจิตวิทยาหรือทางการแพทย์ อาการเจ็บป่วยของพวกเขามีคำอธิบาย แต่ก็มีบางเคสที่เขาอธิบายไม่ได้” เบลเกรดกล่าว “เคสเหล่านั้นแสดงให้เขาเห็นว่าการเข้าสิงเป็นเรื่องจริงและปีศาจได้เคลื่อนไหวในรูปแบบของการเข้าสิงผู้คนที่เปราะบาง เปลี่ยนพวกเขาให้เข้าสู่ด้านมืด ท้ายที่สุดแล้ว หน้าที่ของเขาคือการพยายามช่วยเหลือพวกเขา รักษาจิตวิญญาณของพวกเขาและกำจัดการถูกรังควาญจากปีศาจของพวกเขาน่ะครับ”
ความเปิดเผยที่เป็นเอกลักษณ์ อารมณ์ขันและมุมมองต่อพิธีกรรมที่ลึกลับที่สุดของคริสตจักรของบาทหลวงอาร์มอธทำให้อนุทินทั้งสองเล่มของเขา An Exorcist Tells His Story และ An Exorcist: More Stories กลายเป็นหนังสือเบสต์เซลเลอร์ ผู้อำนวยการสร้าง ไมเคิล แพทริค แค็กซ์มาเร็คสามารถซื้อสิทธิหนังสือเหล่านี้มาได้ก่อนที่บาทหลวงอาร์มอธจะเสียชีวิตลงในปี 2016
ผู้อำนวยการสร้างคนอื่นๆ ได้พยายามแต่ก็ล้มเหลวในการเกลี้ยกล่อมอาร์มอธให้พวกเขาได้รับโอกาสในการเปลี่ยนอนุทินของเขาให้กลายเป็นภาพยนตร์ “ผมเชื่อว่าที่ผมประสบความสำเร็จในขณะที่ผู้อำนวยการสร้างคนอื่นๆ ล้มเหลวคือผมสามารถทำให้บาทหลวงอาร์มอธเชื่อได้เกี่ยวกับความทุ่มเทอย่างจริงใจที่ผมมีต่อศาสนาครับ” แค็กซ์มาเร็คอธิบาย “ในการพูดคุยของเรา ผมสามารถทำให้เขาเชื่อได้ว่าถ้าเขาลองทำงานกับผมดู ผมจะพยายามทำให้แน่ใจว่า จะมีการปกป้องศาสนาคริสต์อย่างดีในหนังเรื่องนี้ และเขาจะได้รับความเคารพในฐานะบุคคล ร่วมไปกับคริสต์จักรและนิกายความเชื่อของเขาน่ะครับ”
“อนุทินพวกนั้นเป็นคลังสมบัติของเรื่องราว เกร็ดประวัติศาสตร์ แฟ้มเหตุการณ์จริงๆ หลายร้อยเรื่อง ที่บาทหลวงอามอร์ธได้ขับไล่ปีศาจ ไม่มีขีดจำกัดใดๆ เลยในแง่ของจำนวนเรื่องราวที่เราสามารถเล่าได้” แค็กซ์มาเร็คกล่าว “ผมกับหุ้นส่วนการอำนวยการสร้างของผมนำเสนอหนังเรื่องนี้ว่าเป็นเหมือนเจมส์ บอนด์ของนักปราบผี มันเป็นคอลเล็กชันรวมเรื่องราวและเป็นโลกของเรื่องราวมากมาย ที่นำมารวมกันจากอนุทินทั้งสองเล่มนี้เพื่อมาสนับสนุนวิสัยทัศน์ดังกล่าวนั้นครับ”
ผู้อำนวยการสร้างเจฟฟ์ แคทซ์ กล่าวว่า การเล่าเรื่องราวของการไล่ผีผ่านทางมุมมองของวาติกัน“ทั้งความมั่งคั่ง ความลึกลับและการสมคบคิด” เขากล่าว ทำให้เรื่องราวนี้แปลกใหม่ “คนเรามีความสนใจตามธรรมชาติในสังคมปิด และในรัฐที่ทรงพลังอย่างวาติกันครับ” เขากล่าวต่อ “มีความเคลือบแคลงสงสัยในสถาบันของเราและความมั่งคั่งที่เกิดจากอำนาจของเรามากมาย ซึ่งนั่นทำให้ตัวละครอย่างอามอร์ธ ซึ่งเป็นคนหัวขบถภายใน มีเสน่ห์ดึงดูดใจยิ่งขึ้นครับ”
ในภาพยนตร์เรื่องนี้ บาทหลวงอามอร์ธและคู่หูของเขา บาทหลวงเอสควิเบล ที่รับบทโดย แดเนียล โซวัตโต้ ได้สืบเรื่องราวการถูกสิงสู่ที่โบสถ์เซนต์ เซบาสเตียนในแคว้นคาสติล ประเทศสเปน ที่ครอบครัวหนึ่งกำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการบูรณะอาคารเก่าแก่ “ในหนังเรื่องนี้ โบสถ์แห่งนี้มีประวัติยาวนานกับพระคริสตจักรคาธอลิค และมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นที่นั่น ที่ถูกเปิดเผยออกมา” โครว์กล่าว “เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นระหว่างช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุดของพระคริสตจักรคาธอลิค เพราะมีการลงโทษคนที่การแสดงออกของพวกเขาไม่ได้สื่อถึงการมีศรัทธาอย่างลึกซึ้ง เราทุกคนต่างก็คิดว่านั่นเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการล้วงลึกเข้าไปในประวัติศาสตร์ของสเปนครับ”
ทีมผู้สร้างได้ห่อหุ้มเรื่องราวนี้ไว้ภายในแนวคิดเกี่ยวกับ เทวดาตกสวรรค์ในคัมภีร์ไบเบิล “หนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญของหนังเรื่องนี้ถูกหยิบยกมาจากคำบรรยายในคัมภีร์ไบเบิลที่พูดถึงลูซิเฟอร์และเทวดาตกสวรรค์ทั้งหลาย” โครว์กล่าว “ว่าพวกเขาถูกไล่มายังโลกและถูกขังอยู่ใต้ดินยังไง พวกเขาถูกกำจัดรึเปล่า นั่นกลายเป็นพล็อตย่อยที่ยิ่งใหญ่ขึ้นในหนังเรื่องนี้ เมื่อพวกนักบวชเริ่มตระหนักว่าพวกเขากำลังรับมือกับอะไรน่ะครับ”
แน่นอนว่า The Pope’s Exorcist ค่อนข้างจะแตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ สำหรับผู้ชมที่มีศรัทธา “ผู้ชมปัจจุบันมีความรอบรู้พอที่จะค้นพบความหมายในความบันเทิงเมนสตรีม นอกเหนือจากเนื้อหาที่อ้างอิงจากความศรัทธาดั้งเดิมครับ” เขาอธิบาย “The Pope’s Exorcist สะท้อนถึงแง่มุมที่ท้าทายที่สุดของศรัทธาหลายอย่าง ในตอนที่เรานำเสนอเกี่ยวกับบาปและความชั่วร้าย มันก็สะท้อนถึงความเจ็บปวดในอดีตและปัจจุบันของเรา แม้ว่าปีศาจในหนังเรื่องนี้อาจจะดูสุดโต่งและโอเวอร์ไปบ้าง แต่การเคลื่อนไหวของการรบกวนและปีศาจภายในตัวพวกเรามีพลังที่จะครอบงำเราผมเชื่อเสมอว่าพลังของการสวดภาวนา การเอ่ยนามของปีศาจ การให้อภัยบาป และการเอาชนะปีศาจเป็นสิ่งสำคัญต่อศรัทธา และเรื่องราวไหนก็ตามที่ลงเอยด้วยการปราชัยของศัตรูในท้ายที่สุดแล้วก็คือเรื่องราวของความหวังครับ”
[ข่าวประชาสัมพันธ์]