Scream 6 ว่าด้วยเรื่องราวของภาคต่อของซีรีส์หนังเชือดเลือดอย่าง Scream (2022) ซึ่งนับเป็นภาคที่ 5 แต่ไม่มีเลข 5 อยู่ในชื่อ แต่ก็พอเข้าใจได้ เพราะว่าเรื่องราวนั้นเหมือนเป็นการรีบูต แต่กับภาคล่าสุดนี้ดันใส่เลข 6 เข้ามาเต็มๆ และแน่นอนว่า ถ้าหากคุณไม่เคยดูภาคแรก หรือภาคก่อนหน้าปีที่แล้วมาก่อน ก็คงต้องบอกว่าจะมีสับสนเหล่าตัวละครภายในเรื่องบ้างไม่มากก็น้อย เพราะบรรดานักแสดงหน้าเก่าๆ ก็ถูกจับยัดเข้ามาในเรื่องเหมือนภาคก่อนหน้ากันหลายต่อหลายคน แถมเปิดเรื่องมา ก็ไม่ได้มีการปูพื้นจากภาคก่อนให้คนดูรื้อฟื้นเท่าที่ควรด้วย
สำหรับเรื่องราวของ Scream 6 ยังคงโฟกัสอยู่ที่สองพี่น้องอย่างแซม และ ทาร่า ที่สามารถเอาชีวิตรอดจากการตามล่าของ Ghostface จากภาคก่อนมาได้ โดยทั้งคู่ ย้ายออกจากเมืองเล็กๆ ในภาคก่อนมาอยู่เมืองใหญ่อย่างนิวยอร์ก เพื่อหวังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ห่างไกลจากเรื่องสยองขวัญที่เคยเผชิญกันมา แต่แน่นอนว่า ทุกอย่างมันยังไม่จบ ยังคงมีคนที่ต้องการสานต่อเจตนารมย์การเชือดของฆาตกรหน้ากากผี ที่จะตามล่าทั้งคู่ในภาคนี้อย่างไม่ลดละ
ตลอดทั้งเรื่องของภาคนี้ ค่อนข้างจะเต็มไปด้วยฉากเชือดเลือดสาดแบบเต็มๆตา และจากที่นับดูคร่าวๆ ก็น่าจะเยอะกว่าภาคก่อน ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เห็นเครื่องในกันแบบจะๆ แต่ความแหวะหรือการกระซวกด้วยอาวุธสุดคลาสิกอย่างมีดสั้นนั้นมีให้ชมกันแทบตลอดทั้งเรื่อง เรียกได้ว่าประมาณ 90% ได้เลยที่เหล่าตัวละครในเรื่องนั้นจะตายด้วยอาวุธชนิดนี้
บทพูดที่เกี่ยวกับการจิกกัดภาพยนตร์ตระกูลเชือดสยองขวัญแบบภาคที่แล้วก็ยังคงถูกยกมาเล่นในภาคนี้เช่นกัน โดยจะมีทั้งบทพูดที่เป็นกึ่งมุกหรือกึ่งดักคอคนดู รวมไปถึงการจิกกัดแฟรนไชส์หนังประเภทนี้เรื่องอื่นๆ รวมไปถึงแฟรนไชส์ตัวเองก็ด้วย ซึ่งในจุดนี้ก็ถือว่าทำได้ดี เพราะมันเป็นอะไรที่เนียนไปกับการหลอกล่อให้คนดูคาดเดาไปต่างๆ นานาว่า ใครกันแน่คือฆาตกรภายใต้หน้ากากผี
แต่ข้อเสียของภาคต่อนี้ก็คือความที่ยังคงเป็นหนังแฟนเซอร์วิสไม่ต่างจากภาคก่อน แถมยังเป็นสูตรการเล่าแบบเดิมๆ ดังนั้นองก์ต่างๆ ของทั้งเรื่อง มันก็เลยเป็นอะไรที่เดาทางได้ไม่ยาก มันเลยไม่ได้เป็นอะไรที่ว้าวหรือหักมุมขนาดนั้น
สรุปแล้วนี่คือหนังภาคต่อ ที่ยังคงเล่าในสไตล์เดิมจากปีก่อนหน้า ถึงแม้ว่ามันจะมีการยัดฉากโหดเลือดสาดของการใช้มีดจ้วงแทงแบบสะใจคอหนัง Slasher เข้ามาเพียบก็ตาม แต่โดยรวมแล้วมันก็ยังคือเหล้าเก่าในขวดใหม่แบบภาคก่อน ที่เอามาเสริม topping แต่งกลิ่นเพิ่มรสเข้าไปนิดหน่อยเพื่อให้ทุกอย่างมันสมบูรณ์ แต่มันก็ดู “พยายาม” ไปหน่อย กับการหักมุมให้คนดูเดาไม่ได้ว่าใครเป็นฆาตกรหรือตัวละครเหล่านั้นจะอยู่หรือตาย
VERDICT
6.5 / 10
ติดตามข่าวหนังอื่น ๆ ได้ที่ online-station.net
