รีวิวหนัง Ant-Man and the Wasp: Quantumania ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ภาพยนตร์ MCU เฟส 4 เป็นอะไรที่ทำให้จักรวาล Marvel นั้นถูกลดทอนความไฮป์ของตัวเองไปพอตัวเหมือนกัน เมื่อเทียบกับตอนปิดเฟส 3 ซึ่งทุกคนไฮป์อย่างหนัก ถึงแม้จะมีหลายต่อหลายเรื่องทั้งจากหนังและซีรีส์ซึ่งทำได้ดี แต่ในภาพรวมนั้นอาจบอกได้ว่าทั้งเฟสไม่มีอะไรพีคเลย มันดูเล่าหลายอย่าง ไดเรคชั่นสะเปะสะปะ โอเคแหละว่ามันคงเป็นช่วงปูพื้นสู่เนื้อเรื่องขั้นถัดไปแต่อย่างน้อยๆ ภาพยนตร์ที่ดีก็ควรสนุกได้ด้วยตัวของมันเอง เฟส 4 เป็นช่วงที่ MCU มาตรฐานแกว่งกว่าทุกเฟสที่ผ่านมา ก่อนปิดเฟสไปด้วย Black Panther 2 ที่ก็ทำรายได้น้อยกว่าภาคแรกอยู่หลายเท่า
Ant-Man and the Wasp: Quantumania จึงต้องรับบทหนักในการที่จะต้องทำทั้งเปิดเฟส 5 และกระตุ้นให้ผู้คนคึกคักขึ้นมาอีกครั้งด้วยตัวร้ายใหม่ประจำ SAGA อย่างแคงแต่ก็เหมือนกับสิ่งที่ตัว Ant-Man เป็น เพราะผู้คนอาจไม่ได้คาดหวังกับหนังจากฮีโร่ชื่อชั้นรองมากนัก ทว่าก็เหมือนกับสิ่งที่ Ant-Man ทำอีกนั่นแหละ ถึงจะโลว์โปรไฟล์ขนาดไหน จะตัวเล็กขนาดไหน แต่เขาก็พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งว่ายังคงเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ขาดไม่ได้ของเรื่องราวที่ใหญ่โต และผมยินดีจริงๆ ที่ Ant-Man and the Wasp: Quantumania เปิดเฟส 5 ของ MCU ได้น่าสนใจเหลือเกิน
Ant-Man ภาคนี้จะเล่าเรื่องของครอบครัว สก็อตที่จับพลัดจับผลูเข้าไปติดอยู่ในมิติควอนตัมอีกครั้ง ทว่ารอบนี้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับสงครามของดินแดน และเผชิญหน้ากับตัวร้ายที่แกร่งสุดๆ อย่างแคง รวมถึงเครื่องจักรสังหารสุดป่วนโมด็อค
ถ้าจะตัดบทว่าเรื่องนี้เป็นหนังที่ยอดเยี่ยมสุดๆ เพราะ แคทเธอรีน นิวตัน ผู้รับบท แคสซี่ แลง คนใหม่ไว้ผมหางม้าเกือบทั้งเรื่อง น่ารักสุดๆ ก็คงจะไม่ควรนัก แต่ส่วนตัวผมรู้สึกว่าการที่ Ant-Man เริ่มเรื่องด้วยการพยายามจะต่อติดแค่กับเรื่องราวของตัวเองไม่ต้องเอาไทม์ไลน์อื่นมาพัวพันให้มากมาย ก็ทำให้ตัวหนังมีความเสถียรและนิ่ง สามารถเล่าไปตามจังหวะของตัวเองได้ดี ก่อนจะค่อยๆ ขยายความสู่ซีเควนซ์ใหญ่โตตอนท้ายและจบด้วยความพีคของเอนด์เครดิตทั้ง 2 ตัว แม้ในภาพรวมมันจะไม่ได้เพอร์เฟค และรู้สึกว่าเล่ารวบรัดไปบ้าง แต่เท่านี้ผมก็คิดว่ามันดีกว่าเฟส 4 เกือบทั้งเฟสแล้ว
ด้วยความที่มันเล่าน้อยไปหน่อย ทำให้ดราม่าครอบครัวแลงดูเบาบางไปนิด ไม่อาจดึงคนดูให้มีส่วนร่วมได้มากนัก อาจต้องให้เวลามันมากกว่านี้หากอยากจะให้ออกมาดี กระนั้นเหตุผลหรือการกระทำของตัวละครในภาพรวมก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ อาจหงุดหงิดการอมพะนำของเจเน็ตไปบ้างแต่ก็พอจะเข้าใจได้ ในทางกลับตัวหนังก็ให้เวทีกับการเปิดตัวของ แคสซี่ แลง ได้ดี เพราะนอกจากความน่ารักของน้องแล้ว เรายังรู้สึกได้ว่าเป็นตัวละครที่ดูน่าสนใจทั้งในแง่ความความสามารถและความคิดความอ่าน มีความกบฎแต่ก็น้อมรับอยู่ในตัว เจ๋งมากๆ
ตัวละครแคงของ โจนาธาน เมเยอร์ส ก็เป็นอีกตัวที่ต้องชมรูปแบบการแสดงที่ทำได้ยอดเยี่ยมมาก การพูดการจา สีหน้า ท่าทางของภาษากาย เขาดูน่าเกรงขามสุดๆ และเผลอนึกไปแวบใหญ่ว่าพวกพระเอกจะสู้ยังไง แต่ก็นั่นแหละปัญหาของ MCU ยังคงมีอยู่ กับการเปิดตัวตัวร้ายแบบพลังร้ายกาจสุดๆ แต่ก็ยังมีช่องให้พระเอกสู้กลับได้แบบ เอ้อ! มันควรรับมือได้ดีกว่านี้รึเปล่านะ
อีกสิ่งหนึ่งที่ยอดเยี่ยมสุดๆ ของหนังคือการสร้างโลกมิติควอนตัมที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตประหลาดๆ เยอะแยะมากมาย น่าจะต้องระดมไอเดียอย่างหนักเลย แล้วหลายๆ ตัวมีเอกลักษณ์น่าจดจำไม่ถูกออกแบบส่งๆ ทำให้ช่วงท้ายที่เป็นซีเควนซ์ใหญ่นั้นมันอลังการและอุตลุตสุดๆ อย่างกับดูสตาร์วอร์สก็ไม่ปาน แถม แฮงค์ พิมพ์ ในช่วงท้ายก็เท่จัดๆ แย่งซีนไปเฉยเลย อ้อแต่ก็เตือนไว้นิดหนึ่งว่าเรื่องนี้แสงสีมันละลานตามากๆ บางคนอาจมึนได้นะครับ ยังไงก็ระวังๆ กันสักหน่อย
Ant-Man and the Wasp: Quantumania อาจยังไม่ถึงขั้นหนัง MCU ช่วงพีคๆ แต่อย่างน้อยที่สุดมันยังคงรักษาไอเดนติตี้ของตัวเองได้ดี มีทั้งความสนุก ความเพี้ยน ย่อยง่าย ปูทางสู่เรื่องราวที่ใหญ่กว่า และแม้ว่าตัวฮาอย่างลูอิสจะไม่มา แต่โมด็อคก็สามารถทดแทนได้อย่างไม่ขัดเขิน เป็นหนังเปิด MCU เฟส 5 ได้อย่างน่าดูชม และน่าจะทำให้ไฟของแฟน MCU หลายๆ คนที่มอดไปก่อนหน้า ถูกจุดติดขึ้นมาใหม่อีกครั้งได้ไม่มากก็น้อยครับ แต่ก็อย่างเคยอย่าเพิ่งเชื่อผม จงมาพิสูจน์ในโรงภาพยนตร์ครับ
VERDICT
8.5/10
ขอขอบคุณ Major Cineplex ที่เอื้อเฟื้อการรับชมภาพยนตร์ครั้งนี้ครับ
ดูรอบหนัง และจองตั๋วได้ คลิกที่นี่ https://majorcineplex.com/booking2/search_showtime/movie=1882
ติดตามข่าวภาพยนตร์อื่น ๆ ได้ที่ online-station.net
