หลังจากที่เปิด Trailer ให้ได้ชมกันไม่นาน ทางเราได้มีโอกาสเข้าไปทดสอบตัวเกม Wild Hearts เวอร์ชั่น Preview บน PC ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าคนที่เล่นเกมนี้มาหลายคนก็ต้องนึกถึงเกม Monster Hunter กันไม่มากก็น้อย และมันก็ไม่ผิดที่จะคิดแบบนั้นเพราะมันมีความคล้ายคลึงกันมากจริง ๆ แต่กระนั้น ตัวเกมก็มีลูกเล่นหลากหลายมากมายที่ทำให้มันเป็นเกมล่ามอนสเตอร์ที่ต่างจากเกมอื่น ๆ
สำหรับเกม Wild Hearts นั้น ถูกสร้างโดยทีม Omega Force ซึ่งเป็นทีมงานพัฒนาเกมซีรีส์ดังอย่าง Dynasty Warriors โดยตัวเกมใหม่นี้มีคอนเซ็ปต์ก็คือ ‘การล่าและการคราฟ’ ซึ่งการคราฟที่ว่านี้ก็ไม่ใช่การสร้างชุดเพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในระหว่างการต่อสู้ อย่างที่เราได้เห็นกันไปแล้วใน Trailer
Gameplay ด้านการต่อสู้
ตัวเกมนั้นค่อนข้างที่จะโฟกัสในเรื่องการต่อสู้และการคราฟอุปกรณ์เป็นหลัก ซึ่งสิ่งที่เราคราฟมานั้น (หรือเรียกตามเกมคือ Karakuri) จะมีการใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ทั้งในเชิงรุกและรับ ซึ่งอาวุธของเราก็สามารถใช้คอมโบกับสิ่งที่คราฟขึ้นมาได้อีกด้วย เช่นแท่นกระโดดพาพุ่งไปโจมตี รวมไปถึงคบเพลิงที่ทำให้อาวุธเราได้รับสถานะไฟ โดยการใช้งานในการต่อสู้แทบจะไม่รู้สึกติดขัดเลยแม้แต่น้อย
การคราฟ Karakuri นี้จะให้ความรู้สึกเหมือนกับเกม Fortnite พอสมควร ซึ่งมันสามารถสร้างออกมาได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้เรายังสามารถผสมผสาน Karakuri ให้ครบตามที่กำหนดเพื่อคราฟสิ่งที่ดีกว่าเดิมได้เป็นต้น เช่นการผสมแท่นกระโดด 6 ชิ้น ก็จะได้เป็นประตูป้องกันขนาดใหญ่นี่เอง โดยการคราฟจะต้องใช้ Thread ซึ่งเราสามารถเก็บได้ตามฉาก (ก้อนหิน ต้นไม้) หรือจะโจมตี Kemono จนชิ้นส่วนมันแตกก็ทำให้เราได้ Thread มาคราฟต่อเช่นกัน
อาวุธภายในเกมจะมีให้เลือกถึง 8 ชนิด โดยอาวุธในช่วงทดสอบนี้ ได้แก่ คาตานะ, โนดาชิ (ดาบใหญ่), ร่ม, ธนู และ ค้อน ซึ่งอาวุธทุกชนิดจะมีแนวทางการเล่นที่แตกต่างกันออกไป และทุกอาวุธสามารถใช้คอมโบกับ Karakuri ที่เราคราฟมาได้เป็นอย่างดี
ในแง่ความวุ่นวายในการล่ามอนสเตอร์ ตัวเกม Wild Hearts ค่อนข้างจะเข้าใจง่ายมากกว่า ซีรีส์ Monster Hunter เพราะตัวเกมค่อนข้างเน้นที่การต่อสู้เป็นหลัก ไม่มีเรื่องการลับคมอาวุธหรืออื่น ๆ มากวนใจเท่าไหร่นัก ทำให้การต่อสู้ค่อนข้างลื่นไหลมากเลยทีเดียว แถมทุกครั้งที่จัดการ Kemono ได้ ก็จะมี Finish Move เท่ ๆ ให้ได้ชมกันอีกด้วย
Gameplay ในส่วนอื่น
Karakuri แม้ดูเหมือนจะใช้แต่ในการต่อสู้ แต่มันก็มีอีกโหมดนึงที่ชื่อว่า Dragon Karakuri ซึ่งเป็นโหมดที่ให้เราใช้สร้างฐานขึ้นมาได้ เช่น แคมป์ไฟ เต็นท์ โรงตีเหล็ก และอื่น ๆ โดยเราสามารถสร้างมันได้ทุกที่ภายในฉาก และสามารถทุบทำใหม่ได้ตลอด โดยในการสร้างแต่ละครั้งจะใช้ค่า Dragon Lode ที่จะได้จากการอัพเกรด Dragon Pit ตามฉากทั่วไป
ตรงจุดนี้ทำให้เราสามารถสร้างฐานในจุดที่เราชอบได้ และเราสามารถ Fast Travel ระหว่างแคมป์ที่เราตั้งไว้ได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้การเดินทางนั้นทำได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องระวังหากจุดที่เราสร้างมี Kemono ผ่าน ก็อาจจะพังได้ (แต่ก็สามารถสร้างใหม่ได้ดังเดิมอยู่ดี)
การหาไอเทมจากเหล่ามอนสเตอร์เพื่อกลับมาสร้างอาวุธและชุดเกราะใหม่ ก็เป็นอีกหนึ่งหัวใจหลักของเกมสไตล์นี้เช่นกัน และตัวเกมยังมีระบบทำอาหาร ให้เราหาวัตถุดิบมาทำอาหารซึ่งจะช่วยเพิ่มค่าความสามารถให้เราอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการสร้างตัวละคร ที่หากใครคุ้นเคยกับซีรีส์ Nioh ดี ก็คงจะไม่ผิดหวัง เพราะตัวเกมมีหน้าตาทรงผมให้เลือกค่อนข้างมาก และตัวเลือกในการปรับตัวละครก็ค่อนข้างเยอะพอสมควร
การเล่นออนไลน์
ในส่วนของการเล่นออนไลน์นั้นตัวเกมจะสามารถเล่นได้พร้อมกันสูงสุด 3 คนด้วยกัน โดยผู้พัฒนาให้เหตุผลว่าผู้เล่น 4 คนนั้นเยอะเกินไป โดยเฉพาะการสร้าง Karakuri ที่อาจจะทำให้การล่า Kemono การเป็นการบูลลี่ไปเสียเปล่า ๆ โดยสิ่งที่สร้างนั้นจะเป็นของห้อง Host เป็นหลัก โดยเฉพาะเรื่องของฐานต่าง ๆ ทำให้เราเห็นสิ่งเหล่านี้แตกต่างกันออกไป หากเราไปจอยห้องคนอื่น
แม้ตัวเกมจะเปิดโอกาสให้เล่น Co-op กันได้ แต่กระนั้นมันก็สามารถเล่นคนเดียวได้จนจบเช่นกัน โดยพลังชีวิตของ Kemono จะขึ้นตามจำนวนคนที่เล่นภายในห้องนั้นนี่เอง
โดยในการเล่นคนเดียวเราจะมีสิ่งที่เรียกว่า Tsukumo ซึ่งเป็นหุ่นจากเทคโนโลยีโบราณที่จะมาคอยช่วยเรา และเราสามารถหามันได้ตามจุดลับต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยนำมาอัพเกรดให้มันเก่งขึ้นได้อีกด้วย
หนึ่งในซีรีส์ชื่อดังของ Koei Tecmo นั่นก็คือ Nioh ที่เคยถูกขนานนามว่าเป็นซีรีส์ Souls แบบเน้นแอคชั่นและเร็ว ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนก็มองว่าเราสามารถนำคำนิยามนั้นมาใช้กับ Wild Hearts ว่าเป็น Monster Hunter ที่เน้นแอคชั่นและความเร็วได้เช่นกัน ด้วยการเคลื่อนไหวที่คล่องตัวและรวดเร็ว รวมถึงการคอมโบต่าง ๆ ในระหว่างการต่อสู้ ที่ทำให้ตัวเกมมีความเพลิดเพลินไม่น้อย ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเกมที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว