รีวิว Steam Deck เครื่องเล่นเกมพกพาสุดล้ำที่รองรับทุกสไตล์การเล่นเกม

สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคนครับ กลับมาพบกับผม Chamokung อีกเช่นเดิมกับ ซึ่งในคราวนี้ผมได้ลองหยิบเครื่องเล่นเกมพกพาอย่าง Steam Deck มารีวิวให้ดูกันคร่าวๆ ในซุยขิง ๆ Hard Talk ไปแล้ว แต่ถ้าหากใครไม่ได้ดูไลฟ์วันนั้นหรือรู้สึกว่าอยากได้รีวิวสั้นๆ ง่ายๆ ดังนั้นพวกเราทีมงาน Online Station ก็ทำบทความรีวิวเพื่อให้รู้จักเจ้าเครื่องนี้เพิ่มขึ้นครับ

ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณน้องสาวที่น่ารักอย่างแป้ง Zbing z. ด้วยนะครับที่มอบเครื่องนี้มาให้พวกเรา Online Station ได้รีวิวกันก่อน นี่ต้องบอกว่าเจ้าตัวได้เครื่องมายังไม่ได้เล่นเลยนะครับ พวกเราแย่งมาลองก่อนแล้ว 55+

สเป็ค Steam Deck

ขอบอกสเป็คคร่าว ๆ ของเครื่องนี้กันก่อน เครื่องนี้ใช้

CPU ค่ายแดงอย่าง AMD Zen 2 ที่มี 4 core 8 thread ความเร็ว 2.4 ถึง 3.5 ghz ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ถูกออกแบบมาสำหรับใช้กับเจ้าเครื่อง Steam Deck นี้โดยเฉพาะครับ
GPU ที่เป็นตัวประมวลผลการแสดงภาพก็จะใช้สถาปัตยกรรม RDNA2 ซึ่งมีตัวประมวลผล 8 ตัว
Ram จะเป็นแบบ LPDDR5 ที่มีความจุ 16gb และจะมีความจุให้เลือก 3 ขนาดคือ 64gb / 256gb และ 512gb

ซึ่งในรุ่น 64gb จะเป็นรุ่นเดียวที่ไม่ได้ SSD นะครับ ซึ่งไม่ค่อยแนะนำให้ซื้อรุ่นแรกเริ่มนี้กันเท่าไหร่

ราคา Steam Deck

ส่วนราคาจะแบ่งตามนี้ครับ

64GB ราคา $399 หรือราว 14,800 บาท
256GB ราคา $529 หรือราว 19,600 บาท
512GB ราคา $649 หรือราว 24,000 บาท

ซึ่งก็ถือว่าตอนนี้ราคาแรงเอาเรื่องเลยครับถ้าหากเทียบเงินบาทที่กำลังอ่อนค่าในตอนนี้

ถ้าหากใครจำได้ตอนที่เครื่องเล่นเกมนี้เปิดตัว ทาง Valve นั้นได้เคลมไว้เลยครับว่า Steam Deck จะสามารถเล่นเกมระดับ AAA ได้ทุกเกมที่มีอยู่บน Steam ซึ่งถามว่าเครื่องนี้เล่นได้อย่างที่ว่าจริงมั้ยก็ต้องบอกว่าเล่นได้จริงครับ ไม่ว่าจะเป็น Marvel’s Spider-Man Remastered, Elden Ring หรือ God of War ที่ลงให้กับ PC เองก็ตาม

เพียงแต่ว่าผู้ใช้จะต้องพึงรำลึกไว้เสมอว่าเครื่องพกพาเครื่องนี้มันเปรียบเสมือนกับ PC เครื่องหนึ่ง และมันกำลังรันเกมที่ถูกพัฒนามาเพื่อ PC ทุกเกมที่ลง steam ไม่ได้ถูกปรับแต่งหรือ Optimize มาเพื่อ Steam Deck

ดังนั้น ทุกครั้งที่โหลดเกมใหม่มาเล่น อาจจะต้องทำกิจวัตรที่ชาว PC เครื่องไม่แรงทำกันทุกครั้งครับ ก็คือเข้าไปปรับแต่งกราฟิกให้ตรงตามที่เราต้องการ เอาง่าย ๆ คือบางเกมถ้าหาก 60FPS นิ่ง ๆ คุณก็จะต้องจำใจปรับกราฟิกหรือ Resolution ให้ต่ำลงมาก ๆ เพื่อให้เฟรมเรทมันถึง หรือถ้าหากคุณรับได้กับ 30 เฟรม ก็สามารถปรับภาพให้สวยขึ้นได้เช่นกันครับ

จากการทดสอบดูหลาย ๆ เกม ก็พบว่าระบบแจ้งเตือนที่แสดงไว้กับไอคอนเกม ที่ระบุว่าเกมไหนเล่นได้ดีบน Steam Deck เกมไหนแค่เล่นได้ และเกมไหนเล่นไม่ได้เลยนั้นเชื่อถือไม่ได้ 100% ครับ เพราะบางเกมนั้นระบุอย่างชัดเจนเลยว่าไม่รองรับ Steam Deck แต่ก็สามารถเข้าเล่นได้แบบไม่มีปัญหาอะไร แน่นอนว่าหลายๆ เกมที่แจ้งเตือนด้วยสัญลักษณ์สีเหลืองที่หมายถึง ไม่รองรับทั้งหมด เองก็ด้วยเช่นกัน แต่กลับกัน เกมบางเกมที่ที่มีสัญลักษณ์ติ๊กถูกสีเขียว ก็รู้สึกว่าเล่นด้วย Touch Screen บนหน้าจอยังรู้สึกสะดวกกว่าชอบกล

เอาง่ายๆ คือ ณ ตอนนี้ ส่วนตัวผมยังรู้สึกว่า Steam Deck มันยังเป็นเครื่องเล่นเกมที่เฉพาะทางมาก ๆ อยู่พอสมควร และเหมาะกับเกมที่ไม่กินสเป็คมากเท่าไหร่ เกมบางเกมนั้นเล่นได้ลื่นดีไม่มีปัญหา สร้างประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีมาก ๆ อย่างพวกตระกูล Resident Evil แต่กับบางเกมที่ค่อนข้างกินสเป็คก็จะทำให้เล่นได้ไม่นาน แบตเตอรี่ไหลเป็นน้ำ ซึ่งในจุดนี้เราสามารถลดสเปคลงและล็อคเฟรมเรทไว้ที่ 30 เฟรม ก็จะทำให้แบตมันหมดช้าลงได้ ก็จะสามารถเล่นได้นานขึ้นอีกพอสมควร จากที่ลองทดสอบก็น่าจะถึง 4 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อยได้อยู่ครับ

สำหรับเจ้า Steam Deck ก็ต้องบอกตามตรงครับว่ามันเป็นเครื่องที่เจ๋งดี ไม่ว่าจะด้วยการทัชสกรีนเต็มรูปแบบ สเปคเครื่องที่ค่อนข้างแรง จำนวนปุ่มและ Touch Pad ที่สามารถปรับแต่งได้ละเอียดพอสมควร แถมยังสามารถใช้งานด้านอื่นนอกเหนือจากใน Steam ได้ด้วย เช่น ท่องเว็บหรือลงอะไรอย่างอื่นนอก Steam แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ยังถือว่าเป็นเครื่องเกมแบบไฮบริดที่ไม่ได้เป็นมิตรกับเกมเมอร์หน้าใหม่เท่าไหร่นัก เพราะถ้าหากคุณไม่ได้เป็น Steam user หรือผู้ที่เล่นเกม PC เป็นหลัก เอาง่าย ๆ คือถ้าไม่มีความรู้เรื่องการปรับแต่งกราฟิกที่เหมาะสมกับสเป็คเครื่องก็อาจจะมีประสบการณ์ที่ไม่ปลื้มเท่าไหร่นักกับเครื่องนี้ เพราะทุกอย่างเราจะต้องพยายามงม พยายามปรับแต่งให้มันเหมาะสมกันไปในแต่ละเกมอยู่เสมอ ๆ ตั้งแต่คุณภาพกราฟิก ปุ่มกดต่าง ๆ รวมไปถึงเกมบางเกมที่ระบบมันบอกว่าไม่รองรับ แต่จริงๆ มันรองรับและเล่นได้สบายๆ เป็นต้นครับ