ตอนที่เห็นว่าคะแนนรีวิว Morbius จากเหล่านักวิจารณ์เมืองนอกออกมาย่ำแย่ ก็ยังเผื่อใจไว้บ้างว่ามันอาจจะโดนเทสต์ตัวเราเอง เหมือนกับตอน Eternals ซึ่งคะแนนไม่ค่อยเข้าท่าเหมือนกันแต่ดันชอบมาก ทว่าพอเวลาผ่านไป คำวิจารณ์เสียงแทบไม่แตก ก็เลยกลายเป็นต้องทำใจไปแล้วว่าหนังน่าจะแย่แน่ๆ ผมจึงปรับความคาดหวังไว้ล่วงหน้า พลางเข้าโรงไปด้วยความรู้สึกตั้งคำถามที่ว่ามันแย่เพราะอะไร
แต่อันที่จริงมันก็ตะหงิดๆ ตั้งแต่หนังเลื่อนฉายแบบไม่มีหลักยึดแล้ว นึกจะโดนเลื่อนก็เลื่อน สถานะของมันเหมือนกับเป็นหนังตัวแถมของ Sony และ Marvel ที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรนัก และต้องปรับหลายๆ อย่างไปตามสิ่งที่เกิดขึ้นกับหนังเรื่องใหญ่ๆ เพื่อให้มีความสอดรับกับจักรวาล จนสูญเสียคุณค่าของตัวเองไปโดยแทบจะสิ้นเชิง
***บทความนี้ไม่มีสปอยล์
Morbius เล่าถึงตัวละคร ไมเคิล มอร์เบียส ผู้ที่ฉายแววอัจฉริยะแต่เด็ก แม้จะป่วยเป็นโรคที่ยังไม่ที่ทางรักษา ทั้งนี้ตัวเขาอุทิศทั้งชีวิตเพื่อจะหาทางรักษาโรคดังกล่าว แต่แล้วทางรอดของเขากลับมาพร้อมกับคำสาปที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตเขาไปตลอดกาล
ทั้งหมดนั้นเราสามารถเห็นได้จากตัวอย่าง อาจจะรู้สึกว่าเพราะพลอตหลักมันธรรมดาๆ แบบนี้หนังเลยออกมาบ้งรึเปล่า? เอาเข้าจริงก็คงเป็นส่วนหนึ่งแต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะหนังฮีโร่หลายๆ เรื่องก็มาแนวนี้ แต่อย่างน้อยที่สุดมันก็ยังกลายเป็นหนังที่สนุกได้ ดังนั้นแล้วปัญหาของ Morbius ก็คือการเล่าเรื่องในองค์รวมซึ่งทำไม่ได้เรื่องในสักทาง
ตอนเริ่มต้นเหมือนจะดี แต่ก็ค่อยๆ แผ่วลงเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่สถานการณ์ในเรื่องคล้ายว่าจะค่อยๆ ไต่ระดับ แต่การดำเนินเรื่องและตัดต่อกลับไม่เร้าให้คนดูรู้สึกตื่นเต้นตาม ตอนใกล้ไคลแมกซ์ก็คือยอมรับว่าเกือบหลับเพราะมันราบเรียบเหลือเกิน อาจจะดีขึ้นมาหน่อยตอนต่อสู้ ซึ่งถูกดีไซน์ออกมาได้น่าสนใจและค่อนข้างน่าตื่นตา จริงๆ ก็ดูดีดูสนุก แต่รู้สึกว่าวิชั่นของคิวบู๊ยังทำให้ดีกว่านี้ได้อีก บางจุดยังไม่สุดนัก บางจุดก็มืดเกินกว่าจะดูฉากแอคชั่นให้รู้เรื่อง แม้กระนั้นในก็เป็นหนึ่งในข้อดีไม่กี่อย่างของหนังที่พอจะพูดถึงได้
สิ่งที่ดีสุดของหนังคือ จาเรต เลโต ที่หากแกจะยังเป็น มอร์เบียส ในหนังเรื่องถัดๆ ไปของ Sony เราก็ค่อนข้างเชียร์ เพราะแกดูเหมือนว่าจะเป็นองค์ประกอบเดียวของหนังที่ตั้งใจ อยากน้อยก็เล่นได้แบบที่คนดูไม่ติดไม่ขัด และมอบใจให้ได้อย่างไม่ยาก น่าเสียดายที่ถึงจะพยายามแบกขนาดนี้มันก็ยังไม่พอให้เรารู้สึกสนุกมากพอ
เพราะอย่างที่บอกว่านอกจากฉากแอคชั่นและจาเรต เลโตแล้ว เราหาจุดดีๆ จุดอื่นไม่เจอจริงๆ บางฉากไม่รู้ใส่มาทำไม ตัวละครบางตัวมีไว้เพื่ออะไร บทตำรวจของไทรีส กิ๊บสันใส่มาแก้เก้อใช่ไหม ทุกๆ อย่างดูผิดที่ผิดทางไปหมด ในขณะที่หลายๆ ฉากในเทรลเลอร์ก็ไม่ได้เห็นในหนังจริงราวกับถูกตัดออกเพราะสถานการณ์ภาพรวมของจักรวาลโซนี่เปลี่ยนไป Morbius จึงกลายสภาพเป็นหนังของแถมที่มีไว้เพื่อแนะนำตัวละครมอร์เบียสเฉยๆ จะฉายตอนไหนก็ไม่สำคัญ สูญสิ้นมูลค่าความเป็นตัวเองลงอย่างสิ้นเชิง
แม้กระนั้นถ้าถามว่ามันแย่สุดของ Marvel เลยใช่ไหม ผมก็ว่าใกล้เคียง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าแย่ขนาดนั้น ถ้าถล่มความคาดหวังลงมามันก็ยังพอดูเรื่อยๆ ได้อยู่บ้าง อย่างน้อยๆ ก็ไปทำความรู้จักกับ มอร์เบียส สักหน่อย แน่นอนว่าท้ายที่สุดความเห็นของผมก็เป็นความเห็นของคนๆ เดียว คุณยังสามารถไปพิสูจน์คุณภาพของหนังได้ด้วยตาตัวเองในโรงภพยนตร์ครับ ไม่แน่ว่ามันอาจจะโดนเส้นคุณก็เป็นได้
ขอบคุณ Major Cineplex ที่สนับสนุนการชมภาพยนตร์ในโรงครั้งนี้
VERDICT
5.5/10
ดูรอบหนัง และจองตั๋วได้ คลิกที่นี่ https://bit.ly/MorbiusOS