ชวนดู 7 อีสเตอร์เอ้กคลาสสิกที่พบได้ง่ายในหนัง RE: Welcome to Raccoon City

ผ่านมาเกือบ 1 สัปดาห์แล้วนะครับกับภาพยนตร์ RE: Welcome to Raccoon City ที่เป็นการรีบูตใหม่หลังจากที่จบ 6 ภาคของภาพยนตร์ที่แสดงนำโดย มิลล่า โจโววิช ไป โดยภาคนี้มีการเปลี่ยนที่มาที่ไปของตัวละครจากในเกมใหม่หมด รวมถึงเปลี่ยนแม้กระทั่งคาแร็กเตอร์ของตัวละครบางตัวไปอย่างสิ้นเชิง

ทั้งนี้ กระแสด้านลบจากผู้เล่นเราคงไม่พูดถึงเพราะเชื่อว่าผู้กำกับและทีมงานก็คงอ่วมไปเยอะ เราเลยจะพาเพื่อน ๆ มาชมกับอีสเตอร์เอ้กจากในภาพยนตร์ภาคล่าสุดนี้ ที่มีจุดเชื่อมโยงกับในเกม และสามารถพบเจอได้ง่ายมาก โดยเราได้ยกตัวอย่างมาทั้งหมด 7 อีสเตอร์เอ้ก (จากที่มีอีกเพียบที่ไม่ได้ยกมา) ให้เพื่อน ๆ ได้ชมกัน จะมีอะไรบ้างนั้นมาชมกันเลยดีกว่า

เนื้อหาในบทความนี้มีการสปอยล์เนื้อหาหนังนะครับ ใครซีเรียสเรื่องสปอยล์ก็ไปดูหนังมาก่อนโลด


Stuffed Doll

เปิดเรื่องมาปุ๊บ หนังจะแฟลชแบ็คเหตุการณ์ไปยังคริสกับแคลร์ในวัยเด็ก ที่มีการเปลี่ยนบทและที่มาที่ไปของพี่น้องคู่นี้ว่ามาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่มีวิลเลียม เบอร์คิน เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ที่นั่น ซึ่งตุ๊กตาจะมีปรากฏอยู่ในช็อตที่แคลร์ตื่นขึ้นมาเจอมันวางอยู่ใกล้ ๆ และตุ๊กตานี้ก็เป็นตัวเดียวกับที่เชอร์รี่ต้องแกะเอาบล็อกสี่เหลี่ยมออกมาจากด้านหลังเพื่อใช้ไขปริศนาออกไปจากห้องที่เธอโดนขังอยู่นั่นเอง


Emmy’s Diner

ช่วงต้นของภาพยนตร์ จะเป็นเหตุการณ์ในร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เวสเกอร์วางแผนบุลลี่ลีออนที่เป็นตำรวจหน้าใหม่ของสถานีตำรวจเมืองแร็คคูนซิตี้ โดยมีจิลสมรู้ร่วมคิดด้วย ซึ่งร้านที่ว่านี้มีป้ายติดอยู่หน้าร้านว่า Emmy’s Diner ซึ่งเป็นร้านที่แคลร์เคยเข้าไปแวะในช่วงคัตซีนตอนต้นเกม Resident Evil 2 ที่วางขายเมื่อปี 1998 นั่นเอง ก่อนที่นางจะเจอซอมบี้เข้ามารุม เคราะห์ดีที่ได้เจอกับลีออนและชวนหนีไปด้วยกัน


Jill Sandwich

ภายในร้าน Emmy’s Diner ที่เพิ่งกล่าวไปในข้อที่แล้ว หลังจากที่จิลกับเวสเกอร์ร่วมกับบุลลี่ลีออนจนสะดุ้งตื่น จิลก็จัดการขโมยเอาแซนด์วิชบนจานของเวสเกอร์มากินหน้าตาเฉย โดยมุกแซนด์วิชจิลนี้เป็นการล้อเลียนบทสนทนาระหว่างแบร์รี่กับจิลในเกมภาคแรก หลังจากที่แบร์รี่ช่วยจิลออกมาจากห้องกับดักที่เพดานถล่มลงมาได้อย่างหวุดหวิด ด้วยคำพูดว่า “เมื่อกี้นี้เกือบไปแล้ว เธอเกือบจะกลายเป็นจิลแซนด์วิช (โดนกับดักทับแบน) แล้วนะ”


Itchy. Tasty.

ตอนที่แคลร์เดินทางมาถึงเมืองแร็คคูนซิตี้ และแวะไปหาคริสที่บ้าน แต่คุยได้ไม่นานคริสก็มีเหตุต้องเดินทางไปสถานีตำรวจก่อน ส่วนแคลร์ที่ยังอยู่ภายในบ้านก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตู พอหันไปดูก็พบกับสาวข้างบ้านที่ใช้เลือดเขียนบนกระจกที่ประตูว่า Itchy Tasty (รู้สึกคัน รู้สึกอร่อยจัง) โดยวลีนี้เป็นการอีสเตอร์เอ้กที่อ้างอิงถึงไดอารี่ฉบับหนึ่งที่พบได้ในคฤหาสน์ของเกมภาคแรก โดยผู้เขียนคือหนึ่งในเจ้าหน้าที่ของ Umbrella ที่ติดเชื้อ T-Virus เข้าไป จนเกิดอาการคันตามตัวและหิวตลอดเวลา และไม่ต้องสงสัยครับว่าเจ้าหน้าที่คนนี้ก็ได้กลายร่างเป็นซอมบี้ในที่สุด


First Zombie

ประมาณกลางเรื่อง สมาชิกของหน่วย S.T.A.R.S. ได้แก่ คริส จิล เวสเกอร์ และ ริชาร์ด จะได้พบกับคฤหาสน์ที่ตั้งอยู่กลางป่าของเมืองแร็คคูนซิตี้เพื่อตามหาสมาชิกคนอื่นของหน่วยที่หายตัวไป ซึ่งทั้ง 4 คนตัดสินใจแบ่งเป็นทีมละ 2 คนแล้วแยกกันสำรวจ โดยฝั่งของคริสกับริชาร์ดก็ได้ไปเจอกับซอมบี้ตัวหนึ่งที่กำลังแทะเอนริโก้ หนึ่งในเพื่อนร่วมทีมที่มาถึงก่อนหน้าอยู่พอดี และเจ้าซอมบี้ตัวนี้ก็หันควับมาเหมือนกับซอมบี้ที่เราจะได้เจอเป็นตัวแรกในเกม Resident Evil ภาคแรกอีกด้วย


Ashford Twin

ช่วงท้ายของหนัง ลีออนกับแคลร์ได้พบกับม้วนฟิล์มที่พอเปิดดูแล้วก็พบกับแฝดชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังเด็ดปีกแมลงปอแล้วหย่อนลงกระถางให้มดมารุมแทะ ตรงจุดนี้ก็เป็นการนำฉากในมูวี่ของเกม Resident Evil Code: Veronica มาแบบเป๊ะ ๆ มีเปลี่ยนหน่อยก็คือแฝดชายหญิงใช้เป็นคนจริงแสดงเลยครับ


Rocket Launcher

หยิบอีสเตอร์เอ้กมายัดใส่ในหนังรัว ๆ ขนาดนี้แล้ว จะให้พลาดมุกเด็ดขาประจำของซีรีส์อย่าง Rocket Launcher ได้อย่างไร โดยช่วงท้ายของหนังที่พวกตัวเอกต้องเจอกับเบอร์คินที่กลายร่างเป็น G เต็มตัวไปแล้ว ขณะที่คริสและแคลร์กำลังพลาดท่า ลีออนที่เปรียบเสมือน Loser มาตลอดทั้งเรื่องก็โผล่มายิง Rocket Launcher ใส่ G จนร่างแหลกเป็นโกโก้ครันช์ จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งถ้วนหน้า ซึ่งในท้ายเกมภาค 2 หนุ่มลีออนก็ใช้ปืนจรวดนี้ยิงใส่ Tyrant นี่แหละครับ แต่บุคลิกและมาดของลีออนในเกมไม่เหยาะแหยะแบบในหนังแม้แต่นิดเดียว


ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ภายในเว็บไซต์ Online Station ได้ที่ https://www.online-station.net

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้