ใกล้ได้เล่นกันแล้วสำหรับ Rainbow Six Extraction หลังจากที่มีการ เลื่อนวางจำหน่ายมาปี 2022 เพื่อพัฒนาปรับปรุงตัวเกมให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ทางทีมงานก็ได้มีโอกาสเข้าร่วมทดสอบรอบสื่อเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เกมจะออกวางจำหน่ายให้ได้เล่นกัน เรามาดูกันดีกว่าว่าในเกมนี้มีอะไรที่โดดเด่นกันบ้าง
บทความพรีวิวรอบสื่อครั้งแรก
R6E เมื่อเหล่า Operator เปลี่ยนบทบาทมาสู้กับเอเลี่ยนต่างโลก
หากใครที่สนใจในตัวเกมมาก่อนและได้อ่านบทความการพรีวิวครั้งแรกมาแล้ว ก็คงจะพอเห็นภาพตัวเกมอยู่บ้างพอสมควร และหลายๆ คนก็จะมองเปรียบเทียบกับเกมในลักษณะเดียวกัน อย่างเช่น Left 4 Dead หรือ Back 4 Blood เป็นต้น แต่แม้จะดูคล้ายกัน แต่ตัวเกมมีลักษณะการเล่นที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ขึ้นชื่อว่า Rainbow Six จะให้วิ่งไล่ยิงเอามันก็คงไม่ได้ เพราะตัวเกมซีรีส์นี้ชูความ Tactical มาโดยตลอด ไม่ต่างกับภาค Extraction ที่เราจะต้องใช้กลยุทธ์ทุกวิธีเพื่อเอาชนะเหล่าเอเลี่ยนที่เรียกว่า อาร์เคี่ยน โดยสร้างความเสียหายกับพวกเราให้น้อยที่สุด
ในช่วงก่อนเลือกตัวละครเราจะได้เห็นว่ามีภารกิจอะไรที่เราต้องทำบ้าง ซึ่งจะเป็นจุดให้เราเตรียมตัวและวางแผนกับเพื่อนร่วมทีม ในบางภารกิจเราอาจจะต้องเน้นอุปกรณ์ในการป้องกัน หรือบางภารกิจก็ต้องมีการจับกุมศัตรูโดยที่ไม่ฆ่า ทำให้การเลือกตัวละครในแต่ละภารกิจและอุปกรณ์ที่เหมาะกับสถานการณ์นั้นๆ จำเป็นอย่างมาก
โดยมากภารกิจส่วนใหญ่จะเน้นการ Stealth เป็นหลัก ซึ่งมันเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการจัดการเหล่าเอเลี่ยนโดยที่ตัวเราไม่ต้องเสี่ยงเจ็บตัว เพื่อเอาตัวรอดไปจนจบภารกิจได้ เพราะถ้าหากกระสุนหรือพลังชีวิตไม่พอก็เป็นเรื่องเสี่ยงที่จะดำเนินภารกิจต่อไป
ความเป็น Tactical แบบ Rainbow Six Siege ก็ยังมีอยู่เต็มเปี่ยม ทั้งการใช้ Drone ไปสำรวจค้นหาศัตรูก่อน การยิง Soft Wall ทะลุกำแพง และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ใครเล่น Siege มาก่อนจะเข้าใจได้ไม่ยาก แถมผู้เล่นจะยังได้เห็นบทบาทใหม่ๆ ของตัวละครเหล่านั้นอีกด้วย เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัวเกมน่าสนใจมากขึ้นเช่นกัน สำหรับสายชอบตามเนื้อเรื่องเป็นหลัก
ในแง่ความหลากหลายนอกจากภารกิจที่มีมากกว่าสิบแบบ ก็ยังมีเรื่องของศัตรูที่มีหลากหลายรูปแบบมากเช่นกัน ทำให้ในการเล่นแต่ละรอบแม้จะเป็นฉากเดิม แต่ก็ให้ประสบการณ์ที่ใหม่ไม่ซ้ำตาก่อนๆ อย่างแน่นอน และรวมถึงอุปกรณ์ของเราที่มีการปลดมากขึ้น ก็จะทำให้การเล่นสนุกขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน
แม้ตัวเกมจะไม่ยากและไม่ง่ายจนเกินไป สามารถเปิดโอกาสให้ผู้เล่นเลือกรูปแบบการเล่นที่หลากหลายได้อย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่เป็นผลดีเท่าไหร่นักหากประมาทจนพลาดและภารกิจล้มเหลว เพราะในระหว่าง Mission เราจะไม่สามารถฟื้นฟูพลังชีวิตได้เลย (มีฟื้นฟูพลังชีวิตแบบชั่วคราวเท่านั้น) และหากตัวละครเราถูกจับ ก็จะไม่สามารถเล่นได้จนกว่าจะไปช่วยกลับมาอีกด้วย
ตัวเกมเวอร์ชั่นปกติมีราคาอยู่ที่ 1,070 บาท ซึ่งหากใครที่ซื้อแล้วจะได้ Buddy Pass ที่สามารถส่งให้เพื่อนเล่นฟรี 14 วัน ถึง 2 คน เลยทีเดียว ทำให้เป็นตัวเลือกตัดสินใจได้ดีว่าจะส่งให้เพื่อนคนให้ลองเล่นได้บ้าง หากชอบหรือไม่ชอบก็สามารถซื้อตามมาทีหลังได้เช่นกัน
โดยรวมตัวเกมผสมผสานระหว่างเกมแนว Co-op ยิงเอเลี่ยน ให้รูปแบบการเล่นสไตล์ Rainbow 6 Siege ได้ค่อนข้างลงตัว เป็นอีกหนึ่งเกมที่เหมาะจะเล่นกับเพื่อนเป็นอย่างมาก หากใครสนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Tom Clancy’s Rainbow Six ได้เลย โดยตัวเกมจะเปิดให้เล่นในวันที่ 20 มกราคม 2022 ที่จะถึงนี้