ยังแรงดีไม่มีตกจริงๆ สำหรับ Valheim เกมอินดี้แนว Survival ตัวใหม่ในธีมชาวไวกิ้ง ที่ล่าสุดก็ทำยอดขายไปได้แล้ว 5 ล้านชุด แถมบน Steam ก็ยังมีผู้เล่นเฉลี่ยวันละ 200,000 กว่าคนตลอด ด้วยเกมขนาดเพียงแค่ 1GB แต่ภายในเกมนั้นก็มีสิ่งต่างๆ ให้ทำอยู่มากมายไม่มีเบื่อ วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าภายในเกมเอาตัวรอดนี้ มีระบบอะไรที่เป็นจุดเด่นที่เราเคยเห็นมาจากเกมอื่นๆ บ้าง
ระบบ World Biome แบบ Minecraft
นอกจากการสร้างที่กลายเป็นระบบทั่วไปที่ต้องมีสำหรับเกมแนว Survival แทบจะทุกเกม ภายในเกมเอาตัวรอดไวกิ้งนี้ก็มีการสุ่มฉากที่มีการแบ่ง Biome (ชีวนิเวศ) อีกด้วย ซึ่งในแต่ละโซนพื้นที่ก็จะมีของให้เก็บและมอนสเตอร์ที่แตกต่างกันออกไป เหมือนกับ Minecraft ที่เป็นผู้จุดกระแสแนวนี้ขึ้นมา
ระบบการต่อสู้แบบ Dark Souls
หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้เกม Valheim แตกต่างจากเกมแนว Survival ตัวอื่นๆ ก็คือเรื่องของระบบการต่อสู้ ที่ไม่ใช่แค่การโจมตีรัวๆ เพียงอย่างเดียว แต่ต้องดูถึงเรื่องสตามิน่าด้วย แถมการป้องกันก็มีทั้งการบล็อคและการกลิ้งหลบ รวมไปถึง Parry การโจมตีศัตรูก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน นอกจากที่กล่าวมาก็ยังมีเรื่องของอาวุธที่มีหลากหลายชนิด และในแต่ละชนิดก็มีท่าทางการโจมตีแบบเบาและแบบหนักอีกด้วย หากใครที่เคยเล่นเกม Dark Souls มาก่อน จะรู้สึกได้เลยว่าระบบต่อสู้ในเกมนี้มีความคล้ายคลึงกันอย่างมากเลยทีเดียว
ระบบ Boss Progress แบบ Terraria
Terraria เป็นอีกหนึ่งแนวเกม Survival ที่จุดประเด็นเรื่อง Boss Progress ที่ผู้เล่นจะต้องค่อยๆ ไล่ฆ่าบอสไปเรื่อยๆ เพื่อปลดล็อคของบางอย่างให้ตัวเราเก่งขึ้น และขยับขยายไปสู่ไอเท็มในระดับถัดไป พร้อมทั้งยังทำให้ศัตรูที่มาบุกเราเก่งขึ้นอีกด้วย อีกท
ระบบการ Stealth แบบ Skyrim
อีกหนึ่งระบบที่หลายคนอาจจะมองข้ามภายในเกมนี้นั่นก็คือ การ Stealth ที่เราสามารถทำได้เช่นกันภายในเกม Valheim ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการลอบสังหารแบบเกม Skyrim โดยเราจะโจมตีศัตรูได้รุนแรงขึ้นหากศัตรูยังไม่ทันเห็นตัวเรา หากใช้อาวุธที่เป็นมีดก็จะทำให้การโจมตีรุนแรงขึ้นอีกด้วย แถมลักษณะไอคอนในการย่องแอบศัตรู ก็จะเป็นรูปดวงตาคล้ายกับ Skyrim เช่นกัน จุดที่แตกต่างจุดเดียวก็คงเป็นการย่องภายในเกมนี้จำเป็นต้องใช้สตามิน่านี่เอง
ระบบการเดินเรือแบบ Sea of Thieves
อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้กับเกมแนวไวกิ้งก็คือ การเดินเรือ ที่ภายในเกมก็จะมีลักษณะคล้ายกับ Sea of Thieve ซึ่งเราจะต้องคอยดูลม เพื่อปรับใบเรือให้เหมาะกับสถานการณ์นั้นๆ สามารถกางใบเรือให้รับลมได้เองโดยที่เราไม่ต้องคอยควบคุมเรือตลอดเวลาก็ได้ อีกทั้งด้วยระบบสภาพอากาศแบบสุ่ม ก็ทำให้การเดินเรือไปในเกาะต่างๆ มีความตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะมอนสเตอร์ภายในท้องทะเลที่อาจจะโผล่มาเซอร์ไพรส์ผู้เล่นได้เช่นกัน
ระบบดาวของสัตว์แบบ Red Dead Redemption 2
ภายในเกมเราจะเจอสัตว์และมอนสเตอร์ต่างๆ ตลอดเวลา แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เกมน่าสนใจก็คือสัตว์และมอนสเตอร์บางประเภทจะมีดาวซึ่งแสดงถึงความหายากของพวกมัน ซึ่งนอกจากพวกมันจะมีพลังชีวิตที่มากขึ้นและยากในการจัดการ แต่มันจะให้ผลตอบแทนด้วยการให้ไอเท็มที่มากกว่าเดิมเช่นกัน คล้ายกับระบบการล่าสัตว์ใน Red Dead Redemption 2 นี่เอง แม้จะไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียวเพราะจุดนี้ตัวเกม RDR 2 มีความละเอียดมากกว่าเยอะมาก (การล่าที่ต้องใช้กระสุนให้ถูกชนิด) แต่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สามารถพัฒนาได้มากกว่านี้ในเกม Valheim เช่นกัน
ทั้งหมดนี้ก็เป็นส่วนผสมจากเกมอื่นๆ ที่นำมาพัฒนาและต่อยอดใช้ในเกม Valheim นี่เอง และนั่นก็ทำให้เกมนี้กลายเป็นเกมยอดฮิตติดกระแสอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยความเป็นเกม Early Access ที่มีเนื้อหาอัดแน่นสามารถเล่นได้เกือบ 100 ชม. แบบสบายๆ ใครที่เป็นสายเกมแนว Survival บอกเลยว่าไม่ควรพลาดจริงๆ