รีวิว One Piece: Pirate Warriors 4 – มุโซภาษาไทย ไฉไลกว่าเดิม

แพลตฟอร์ม: PS4, Xbox One, Switch, PC (ทีมงานรีวิวจากเวอร์ชั่น PS4)
ผู้พัฒนา: Omega Force

ทีมงาน Online Station ขอขอบคุณทางบริษัท Bandai Namco Entertainment ที่เอื้อเฟื้อโค้ดเกมเพื่อใช้ในการรีวิวมา ณ ที่นี้ด้วย

ในที่สุดเกมวันพีซมุโซก็ดำเนินมาถึงภาคที่ 4 แล้ว ซึ่งจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของเกมแนวนี้อาจจะชวนให้ใครหลายคนติดภาพลักษณ์เก่า ๆ กันว่าต่อให้ทำมาสักกี่ภาคก็ยังดูเดิม ๆ อยู่เช่นเคย ทว่าเมื่อผู้เขียนได้ลองเล่นดูจนจบก็ต้องทึ่งและยอมรับกับพัฒนาการแบบก้าวกระโดดของภาคนี้เลยครับ ไม่ว่าจะเรื่องระบบต่อสู้ที่มีความหลากหลายกว่าเดิม รวมทั้งฟีเจอร์ปลีกย่อยทั้งระบบอัปเกรดและการปรับแต่งตัวละคร โดยอาจกล่าวได้ว่า One Piece: Pirate Warriors 4 ถือเป็นที่สุดแล้วในบรรดาเกมมุโซจากการ์ตูนวันพีซก็ไม่ผิดนัก

เนื้อเรื่อง

พล็อตของเรื่องจะอิงตามฉบับการ์ตูนเป็นหลัก แต่จะมีการคัดเอาเฉพาะช่วงเวลาสำคัญหลังจากที่กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางเริ่มตั้งกลุ่มได้จนถึงช่วงเกาะโฮลเค้กที่ต้องเผชิญหน้ากับ 1 ใน 4 จักรพรรดิ ส่วนวาโนะคุนิที่เป็นภาคล่าสุดนั้น เนื่องจากเนื้อเรื่องยังไม่สมบูรณ์ เกมจึงทำเป็นเนื้อเรื่องแบบออริจินัลมาให้เราได้สู้กับไคโดชายผู้เป็นสิ่งมีชีวิตที่แกร่งที่สุด ซึ่งเป็นศัตรูหลักของภาคนี้แทน

เกมเพลย์

แนวเกมของ Pirate Warriors 4 เป็นแอ๊กชั่นสไตล์ Hack & Slash ตามต้นแบบสามก๊กมุโซ (Dynasty Warriors) ที่ปุ่มโจมตีพื้นฐานจะมีแต่โจมตีเบาและแรง ตัวละครลูกกระจ๊อกแทบจะทำอะไรเราไม่ได้ซึ่งอันที่จริงแล้วลูกน้องพวกนี้มีไว้ให้เราเก็บเกจพลังมากกว่าเพราะเกจท่าพิเศษของเราจะเพิ่มขึ้นได้จากการโจมตีซึ่งถ้าเราสู้พวกหัวหน้าของศัตรูในระดับความยากสูงไม่ไหวก็ต้องวิ่งหาพวกลูกสมุนนี่แหละเพื่อเพิ่มเกจไม้ตายส่วนระดับหัวหน้าจะเก่งกว่ามากโดยเฉพาะถ้าเล่นในระดับยากหรือยากมากเพราะจะมีเกจป้องกันที่จะลดทอนพลังโจมตีของผู้เล่นได้ศัตรูบางตัวที่เป็น “สายโรเกียร์” เมื่อแปลงร่างแล้วจะเป็นกึ่งอมตะจนกว่าเราจะทำลายเกจป้องกันของมันได้อีกด้วย

ในภาคก่อน ๆ ของซีรีส์ Pirate Warriors นั้นตัวละครจะกระโดดไม่ได้ โดยจะมีแต่ปุ่มแดชเท่านั้น ทำให้ตัวละครสู้กันได้แต่ภาคพื้นดินอย่างเดียว ซึ่งประเด็นดังกล่าวได้ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจขึ้น แต่ในภาคใหม่นี้ได้เพื่มปุ่มกระโดดเข้ามา อีกทั้งสามารถต่อคอมโบกลางอากาศได้ด้วย รวมถึงมีเพิ่มการเปิดคอมโบแบบงัดเสยขึ้น ที่ช่วยเพิ่มแนวทางการเล่นให้ตัวละครทุกตัวได้มากขึ้นเป็นกอง

ตัวละครที่เราใช้ได้ในเกมจะมี 4 ประเภทด้วยกัน คือแบบเน้นใช้พลัง, เน้นความเร็ว, เน้นเทคนิค, เน้นต่อสู้กลางอากาศ ซึ่งทุกประเภทที่กล่าวมา ถ้าใช้การระเบิดพลังเข้าช่วยแล้วความสามารถแต่ละประเภทก็จะถูกเสริมพลังให้สูงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในหลาย ๆ ตัวละครก็จะมีสกิลให้ใช้เพิ่มด้วยเช่นกัน

ใน Pirate Warriors ภาคก่อน ๆ เกมจะมีระบบสะสมเกจเพื่อใช้ท่าไม้ตายอยู่ 2 แบบ คือการระเบิดพลังที่ทำให้ตัวละครแข็งแกร่งขึ้นชั่วขณะกับท่ามุโซที่เป็นท่าโจมตีแบบรุนแรง แต่ในภาคนี้ได้ถูกปรับไปเป็นระบบท่าต่อสู้พิเศษแทน โดยตัวละครแต่ละตัวจะมีท่าต่อสู้พิเศษอยู่ประมาณ 7 ท่าขึ้นไปและจะต้องเลือกท่าในจำนวนนั้นมาติดตั้งเพื่อเรียกใช้ 4 ท่า ยิ่งท่าไหนมีดาวเยอะก็ต้องใช้เวลาในการสะสมเกจนานตามไปด้วย ผู้เล่นสามารถปรับแต่งตัวละครตามแนวการเล่นของตัวเองได้ค่อนข้างมีอิสระ เช่นอาจจะสร้างตัวละครที่มีแต่ท่าพิเศษขนาดเล็ก (ดาวน้อย ๆ) เพื่อใช้ท่าพิเศษได้รัว ๆ หรือจะไปสร้างตัวละครที่มีท่าสะสมพลังนานกว่าเพื่อระเบิดพลังตูมเดียวแล้วใช้ท่าสุดยอดโจมตีรุนแรงให้จบการต่อสู้โดยไวก็ได้

ข้อเสียหลัก ๆ ของเกมอย่างแรกเลยคือกลุ่มตัวละครที่มีรูปร่างใหญ่เป็นพิเศษ (ที่ตัวสูงกว่าตัวละครปกติหลายเท่า) ก็ได้ถูกเพิ่มเข้ามาในเกมให้ผู้เล่นใช้กันด้วยเช่น ไคโดบิ๊กมัม ฯลฯ ที่ใน Pirate Warriors ภาคก่อน ๆ มีขนาดตัวเล็กกว่าต้นฉบับก็ถูกปรับให้ตัวใหญ่ขึ้น แล้วทีนี้ตัวละครขนาดใหญ่ของภาคนี้ดันมีพลังโจมตีสูงเกินเหตุ สูงจนแทบจะทำลายสมดุลของเกมไปเลย ข้อเสียเพียงข้อเดียวของตัวละครไซส์ใหญ่มหึมาก็คือขนาดตัวจะไปบังจอโดยเฉพาะเวลาเล่นโหมดออนไลน์ ซึ่งตัวละครไซส์ใหญ่จำพวกนี้ดันเป็นพวกตัวละครฝ่ายศัตรูซะมากกว่า แถมกำจัดได้ยากมากเพราะทำลายเกจป้องกันของมันได้ยากกวาตัวละครอื่น ๆ อยู่เยอะ

หลังจากที่จบเกมในโหมดเนื้อเรื่องหลักแล้วก็จะสามารถปลดล็อคตัวละครได้เป็นส่วนใหญ่ แต่หากจะปลดล็อคตัวละครให้ครบทุกตัว รวมถึงท่าพิเศษของทุกตัวละครจนหมดก็ต้องเล่นต่อในโหมดล่าสมบัติที่จะเป็นฟรีโหมด ไม่อิงเนื้อเรื่อง เป็นรูปแบบฉากเดี่ยว ๆ ให้เล่นและการผ่านแต่ละฉากจะได้รางวัลเป็นเหรียญประจำด่านที่เราต้องใช้ในการปลดล็อคท่าพิเศษบางท่า และในหน้าจออัปเกรดตัวละครที่จะแสดงเป็นแผนที่เดินไปตามเกาะต่าง ๆ คล้ายกับตารางบอร์ดเกมแต่ละเกาะจะต้องใช้เหรียญที่จำเป็นเพื่ออัปเกรดหรือปลดล็อคสกิล โดยเหรียญพิเศษเหล่านี้บางส่วนก็จะได้มาจากการเล่นโหมดเนื้อเรื่อง แต่นอกเหนือจากนั้นจะได้จากโหมดล่าสมบัติ และจากรางวัลในการเพิ่มความสัมพันธ์ให้ตัวละคร

สำหรับการเล่นโหมดมัลติเพลเยอร์กับเพื่อน ๆ นั้นสามารถแบ่งจอช่วยกันเล่นได้ 2 คนในทุกโหมด แต่ถ้าเล่นแบบออนไลน์ในโหมดล่าสมบัตินั้นจะมีบางฉากที่เล่นได้ถึง 4 คนเลย แต่การออนไลน์ยังมีข้อเสียในเรื่องการชวนเพื่อนอยู่ เพราะเมื่อเราเลือกเล่นออนไลน์แล้วอาจจะมีผู้เล่นอื่นที่เราไม่ได้ชวนโผล่เข้ามาจนเต็มห้องก่อนที่เราจะชวนเพื่อนสำเร็จทำให้เราชวนเพื่อนไม่ได้ และก็ไม่สามารถไล่ผู้เล่นที่ไม่ได้เชิญออกไปได้ด้วย ทำให้ต้องกดยกเลิกแมตช์เพื่อเลือกด่านใหม่เท่านั้น ทำให้เสียเวลามาก

การนำเสนอ

ตัวเกมมีการถ่ายทอดความเป็นวันพีซออกมาได้สวยงามทั้งด้านดีไซน์ตัวละครฝ่ายเราหรือแม้แต่พวก NPC อีกทั้งการเล่าเรื่องผ่านบทสนทนาระหว่างเล่นก็น่าติดตาม ตลอดจนคัทซีนหรือภาพนิ่งก็ทำได้ดี แม้ว่าจะเนื้อเรื่องบางจุดที่เด่นน้อยกว่าจะถูกตัดออกไปบ้าง (น่าจะเพราะเหตุผลเรื่องการคุมความยาวของเกมให้พอเหมาะ) ขณะเดียวกัน เพลงประกอบระหว่างเล่นก็ใส่มามากมายและผู้เล่นก็สามารถเลือกเปลี่ยนเพลงเองตามใจชอบได้ตลอดเวลาด้วย

จุดเด่น

เนื้อเรื่องการ์ตูนวันพีชที่ถูกถ่ายทอดผ่านเกมอย่างยอดเยี่ยม พร้อมด้วยตัวละครที่มีให้เลือกใช้มากกว่า 40 ตัว
ระบบเกมมีการนำเอาจุดเด่นของตัวละครตามต้นฉบับมาใช้ได้อย่างลงตัว
สามารถปรับแต่งตัวละครได้หลากหลาย ผสมผสานการติดตั้งท่าพิเศษและทักษะต่าง ๆ
ตัวเกมปรับให้เรากระโดดได้แล้ว และเพิ่มระบบต่อสู้กลางอากาศที่โดดเด่นกว่าเกมมุโซอื่น ๆ ด้วย
เมนู ซับไตเติ้ล มีการแปลเป็นภาษาไทยทั้งเกม

จุดด้อย

ระบบออนไลน์ทำมาไม่ดีนัก การจะชวนเพื่อนมาเล่นด้วยทำได้อย่างยากลำบากเหลือเกิน
ความเก่งของตัวละครไม่ค่อยสมดุล โดยเฉพาะตัวละครรูปร่างใหญ่ที่แทบจะไม่มีข้อเสียเลย
เนื้อเรื่องวาโนะคุนิที่เป็นตอนล่าสุดถูกนำมาใช้แค่ฉาก และนำตัวละครมาแจมน้อยเกินไป
เมื่อเทียบกับเกมมุโซอื่น ๆ แล้ว ระดับความยากสูงสุดที่มีให้เลือกได้หลังจบเกมก็ยังไม่ค่อยมีความท้าทายเท่าไหร่

สรุป

เป็นเกมแอ๊กชั่นที่ถ่ายทอดความเป็นวันพีชได้ดีงาม ทั้งท่าไม้ตาย ตัวละคร เนื้อเรื่อง และระบบเกม ใครเป็นแฟนของวันพีซไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ในขณะที่นักเล่นเกมทั่วไปนั้น ถ้าเป็นเรื่องของเป้าหมายและความท้าทายในเกมอาจจะดูน้อยไปหน่อยหรืออาจตอบโจทย์ได้ไม่มากพอ แต่อย่างไรเสีย เกมนี้ก็เป็นเกมที่พอเล่นได้เพลิน ๆ มีการปรับแต่งการอัปเกรดอะไรให้ทำเยอะอยู่เมื่อเทียบกับภาคก่อน ๆ แถมการแปลเป็นภาษาไทยก็ค่อนข้างสมบูรณ์ จะมีผิดก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น