รีวิว – Where we belong เมื่อที่ของเรานั้น อาจเป็นเพียงคำลวงที่ถูกปรุงแต่ง

     หลังออกจากโรงในรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่อง Where we belong คำถามที่โดนสาดมากจากคนรอบข้างรัวๆ เลยก็คือ “หนังสนุกไหม” หรือ “หนังดีป่าว” ซึ่งอย่างแรกที่ผมมักจะบอกกับทุกคนก่อนก็คือ พวกายต้องแยกกันก่อนระหว่าง “หนังสนุก” กับ “หนังดี” เพราะหนังสนุกหลายๆ เรื่องไม่ได้ถูกขนานนามว่าเป็นหนังดีชิงรางวัล ขณะที่หนังซึ่งโดนนักวิจารณ์สถาปนาว่าเป็นหนังดี ก็อาจจะถูกร้องยี้จากตลาดผู้ชมส่วนใหญ่ก็ไม่แปลก และกับ Where we belong นั้น ผมจัดให้เข้าข่ายอย่างหลัง เพราะสามารถพูดได้เต็มปากว่ามันคือหนังที่ดี ดีแบบมากๆ ดีแบบโคตรๆ แต่สนุกมั๊ย อันนี้คนละเรื่องละ

     Where we belong ใช้การเล่าเรื่องผ่านมุมมองของซูที่เปิดมาก็อยากบินไปเรียนเมืองนอกเลย โดยที่ไม่ได้บอกเหตุผลอะไรมากนัก ขณะที่ซูมีเพื่อน(ที่เหมือนจะ)สนิทอยู่คนหนึ่งคือเบล สาวห้าวผู้พยายามจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของซู จนเรียกได้ว่าซูโผล่ซีนไหนส่วนใหญ่ก็มักจะมีเบลอยู่ด้วย

     ในช่วงแรกของเรื่องตัวหนังยังดำเนินไปแบบสบายๆ เป็นหนังวัยรุ่น Coming of age ที่ดูเรื่อยเปื่อย ราวกับกำลังขับรถไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่อาจรู้ตัวว่าแท้ที่จริงแล้วเรากำลังขับรถลงเขาอยู่ พอรู้ตัวอีกทีก็อยู่ในพื้นที่ลาดชันชนิดที่ไม่อาจถอยขึ้นไหวแล้ว มีแต่ต้องขับลงไปเรื่อยๆ โดยที่มีก้นเหวสุดลึกรออยู่

     ตลอดการดำเนินเรื่องผ่านมุมมองของซู เราได้เห็นโลกรอบตัวของวัยรุ่นคนหนึ่งที่ดูจะมีปัญหาไปเสียทุกแห่งหน และชื่อภาพยนตร์ก็แทบจะสปอยล์เนื้อหาโดยรวมของหนังทั้งหมดอยู่แล้ว เพราะตัวหนังราวกับจะซัดรัวประโยคคำถามใส่ซูอยู่ตลอดเวลา 2 ชั่วโมงที่ได้ดู 

     “ที่ของเธออยู่ไหนกันนะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

     มันน่ากลัวและดูจะไร้ซึ่งทางหนีหรือทางออกโดยสิ้นเชิง

     บรรยากาศโดยรวมของหนังจะบังคับให้คุณรู้สึกอึดอัด หงุดหงิด อยากวีนเหวี่ยงการกระทำของตัวละคร วิ่งเข้าไปตบซู หรือแหกปากตะโกนด่าเบล แต่ที่เป็นแบบนั้นได้ก็เพราะการแสดงของทั้งเจนนิษฐ์และมิวสิคที่สามารถแบกหนังทั้งเรื่องได้อยู่หมัด โดยเฉพาะรายแรกที่อย่างน้อยๆ ก็ต้องเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ค่อนข้างการันตีเลย

     ผมค่อนข้างชอบสไตล์การเดินเรื่องที่แช่มช้าเนิบนาบ ไม่พยายามบอกอะไรตรงๆ แต่จะคอยหย่อนเบาะแสให้ไปตีความเองอยู่ตลอด กระทั่งพอดูจบแล้วก็จะขึ้นอยู่กับผู้ชมแล้วว่าเก็บเบาะแสระหว่างทางมาได้ขนาดไหนหรือจะตีความอย่างไร เพราะตอนจบคือปลายเปิดที่แท้ทรูให้ไปหาคำตอบกันเอาเอง

     ความเจ๋งอีกอย่างของหนังเรื่องนี้คือจะดูให้ตื้นก็ได้ ให้ดีปก็ดี เป็นได้ทั้งหนังก้าวผ่านวัยของวัยรุ่นไปจนถึงหนังเสียดสีการเมืองหนักๆ อย่างที่บอกคือแล้วแต่คนตีความ แล้วแต่เราเก็บจิ๊กซอระหว่างทางมาปะติดปะต่อเรื่องราวได้ขนาดไหน

     แต่ก็อย่างที่เกริ่นไว้ว่าหนังดีกับหนังสนุกเราต้องแยกกัน ผมกล้าพูดว่า Where we Belong คือหนังไทยชั้นดีที่อุดมไปด้วยองค์ประกอบเจ๋งๆ ทั้งในแง่การแสดงหรือศิลปะภาพยนตร์ แต่จะให้ฟันธงว่าสนุก ก็เรียนตามตรงว่าไม่ไหวและคงไม่กล้า เพราะถ้าผมถามตัวเองหนังเรื่องนี้ผมชอบมากๆ แต่ก็ไม่ใช่หนังดูเอาสนุก มันสนุกก็ต่อเมื่อเราได้คิดตามหนังไปเรื่อยๆ และหากคุณต้องการหนังเบาสมองเพื่อผ่อนคลาย มันก็คงไม่ใช่คำตอบ

     โดยสรุปสุดท้าย Where we Belong อาจไม่ใช่งานหนังที่เหมาะกับทุกคน แต่ผมก็ค่อนข้างเชียร์ให้ทั้งคนที่เป็นแฟนคลับและไม่ใช่แฟนคลับ BNK48 ไปดูครับ อย่างน้อยก็ในฐานะภาพยนตร์ไทยชั้นดีมีสไตล์โดดเด่นเรื่องหนึ่งของปี 2019 นี้

 

9/10

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้