ก่อนที่เกม Resident Evil 7 จะเปิดตัวด้วยมุมกล้องแนวมุมมองบุคคลที่ 1 นั้น เพื่อนๆ ทราบมั้ยครับว่าจริงๆ แล้วซีรีส์นี้เคยมีทำเกมที่ใช้มุมกล้องแบบเดียวกันมาก่อนตั้งแต่ปี 2000 แล้ว โดยเป็นภาคสปินออฟที่ใช้ชื่อว่า Resident Evil: Survivor ที่วางจำหน่ายในช่วงปลายของยุค PS1 นู่นเลย ซึ่งก็ได้รับความนิยมในระดับนึง วันนี้เราจะมาย้อนรำลึกเกี่ยวกับเกมนี้กันครับ
(ล่าง) ปกเกมเวอร์ชั่น PS1 ที่ญี่ปุ่น
(ล่าง) ปกเกมเวอร์ชั่น PS1 ที่ยุโรป
(ล่าง) ปกเกมเวอร์ชั่น PS1 ที่อเมริกา
(ล่าง) ปกเกมเวอร์ชั่น PC ที่ไต้หวัน
การพัฒนาและความเป็นมา
– Resident Evil: Survivor เป็นผลงานการพัฒนาโดยบริษัท TOSE ซึ่งเป็นสตูดิโอเกมขนาดใหญ่ที่ประจำอยู่กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น และนอกจาก Resident Evil: Survivor แล้ว ทาง TOSE ยังได้รับมอบหมายจาก Capcom ให้ช่วยพัฒนาเกม Resident Evil อยู่อีกบางภาค ได้แก่ Resident Evil Revelations กับ Resident Evil: The Mercenaries 3D บนเครื่อง 3DS และ Resident Evil Code: Veronica บนเครื่อง Dreamcast
– เกมนี้ถูกพัฒนาลงทั้งหมด 2 แพลตฟอร์ม ได้แก่ PS1 และ PC ซึ่งฝั่ง PC จะมีวางจำหน่ายเฉพาะในประเทศไต้หวันเท่านั้น โดยเวอร์ชั่น PS1 วางจำหน่ายครั้งแรก ณ วันที่ 27 มกราคม 2000
– ตัวเกมถูกออกแบบมาให้สามารถเล่นคู่กับจอยปืนที่มีชื่อว่า GunCon ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท Namco ได้ แต่จะมีเพียงเวอร์ชั่นญี่ปุ่นและเวอร์ชั่นยุโรปเท่านั้นที่รองรับกับจอยปืนนี้ เนื่องจากทางผู้พัฒนามีความจำเป็นต้องถอดเอาการรองรับกับจอย GunCon ออกจากตัวเกมเวอร์ชั่นอเมริกาไป เพราะทางการของสหรัฐฯ เกรงว่าการใช้จอยปืนจะไปสร้างแรงจูงใจกับเยาวชนในทางที่ผิด เหมือนในคดีกราดยิงหมู่ในโรงเรียนโคลัมไบน์ไฮสคูล ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 เมษายน 1999 จนมีผู้เสียชีวิต 15 คน (รวมผู้ก่อเหตุ) และบาดเจ็บอีก 24 คน
– หลังจากวางจำหน่ายได้ไม่นาน เกมนี้ก็โดนสื่อมวลชนหลายสำนักสับเละ เหตุผลหลักคือ เกมพยายามเอื้อให้เราเล่นด้วยจอยปืน GunCon มากจนเกินไป แต่พอนำมาใช้จริงๆ แล้วการบังคับกลับไม่ได้ดีไปกว่าจอยปืนเท่าไหร่เลย ส่วนเหตุผลรองลงมาคือปัญหาด้านกราฟิก เพราะเกมนี้ใช้โพลีกอนทั้งตัวละครและฉากหลัง และกราฟิกยุค PS1 ตอนนั้นยังค่อนข้างหยาบมาก คุณภาพเลยออกมาดูแย่และไม่ดึงดูดให้เล่นนัก
พล็อตเรื่องและเกมเพลย์
– เนื้อหาของ Resident Evil: Survivor จะกล่าวถึง อาร์ค ธอมป์สัน ที่ถูกไหว้วานจาก ลีออน พระเอกของ Resident Evil 2 ให้เดินทางมายังเกาะชีน่าเพื่อสืบเกี่ยวกับศูนย์วิจัยของ Umbrella ที่ตั้งขึ้นอย่างลับๆ ที่นั่น พอมาถึงก็พบว่านอกจาก Umbrella จะสร้างสถานีวิจัยจริงแล้ว องค์กรนี้ยังแปลงสภาพเกาะชีน่าเป็นเมืองขนาดใหญ่ ต่อมาอาร์คก็ได้เผชิญหน้ากับ วินเซนต์ โกลด์แมน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ Umbrella ที่ประจำการอยู่บนเกาะดังกล่าว กระทั่งเกิดการต่อสู้กันบนเฮลิคอปเตอร์จนเครื่องโหม่งโลก เคราะห์ดีที่อาร์ครอดชีวิตมาได้ แต่ก็ต้องสูญเสียความทรงจำไป พร้อมกับมีเหตุการณ์เชื้อไวรัสแพร่ระบาดไปทั่วเกาะจนคนกลายเป็นซอมบี้เกือบหมด เขาจึงต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากเกาะและฟื้นความทรงจำของตัวเองคืนมาให้ได้
– Resident Evil: Survivor ใช้รูปแบบการเล่นแบบ Off-rail Shooting กล่าวคือผู้เล่นจะมีอิสระในการเดินไปไหนมาไหนในฉาก ผ่านมุมกล้องแบบมุมมองบุคคลที่ 1 ซึ่งตามทางก็จะมีไอเทม อาวุธ ไฟล์ และคีย์ไอเทมให้เก็บเพื่อไขปริศนาหรือผ่านฉาก ต่างจากเกมแนว On-rail Shooting ที่เกมจะบังคับเราเดินไปตามเส้นทางที่เกมกำหนดไว้ ผู้เล่นมีหน้าที่เพียงแค่เล็งยิงศัตรูเท่านั้น (ตัวอย่างเกมแนว On-rail Shooting ก็เช่น The House of the Dead หรือ Time Crisis เป็นต้น)
– ศัตรูในเกมนี้จะยกมาจาก Resident Evil 2 มาเกือบทั้งดุ้น ไม่ว่าจะซอมบี้, ลิคเกอร์, ไอวี่ หรือ Mr.X จะมีปลีกย่อยที่ต่างไปหน่อยก็เช่น ฮันเตอร์ หรือ ไทแรนท์ที่เป็นรุ่นเฉพาะในภาคนี้ แม้แต่เสียงร้องหรือแอนิเมชั่นของพวกซอมบี้ยังดึงของ Resident Evil 2 มาแบบเป๊ะๆ เลย
ความลับต่างๆ ในเกม
– ถ้าผู้เล่นสามารถจบเกมในระดับความยาก Normal ขึ้นไป โดยได้ Rank S ก็จะสามารถเริ่มเกมรอบใหม่ พร้อมกับมีปืนร็อคเก็ตลอนเชอร์มาใช้แบบไม่จำกัดกระสุนได้ตั้งแต่เริ่ม ซึ่งการทำ Rank S นั้นผู้เล่นจะต้องเคลียร์เกมภายใน 1 ชั่วโมง, ฆ่าศัตรูให้ได้มากกว่า 120 ตัว, มีอัตราความแม่นยำในการยิงศัตรูมากกว่า 70% ขึ้นไป, เคลียร์เกมโดยไม่คอนทินิว และเคลียร์เกมโดยไม่ใช้สเปรย์ฟื้นพลังแม้แต่กระป๋องเดียว (แต่ยังใช้สมุนไพรได้อยู่)