รอคอยกันมานาน แต่จนแล้วจนรอดมันก็ยังไม่มีอะไรออกมาให้เราได้เห็นกันมากนัก สำหรับภาพยนตร์ทีวีซีรี่ส์ที่ดัดแปลงมาจากวิดีโอเกมยอดนิยมอย่าง Halo ของ Steven Spielberg ที่ในวันนี้ก็ได้มีข่าวเกี่ยวกับมันออกมาแล้วว่า เรื่องราวในฉบับทีวีซีรี่ส์นั้นจะไม่อิงกับเรื่องราวในฉบับเกมอย่างแน่นอน และก็จะยังไม่ได้ออกฉายจนกว่าจะถึงปี 2020 ด้วย แต่มันก็น่าจะยังคงไว้ซึ่งเรื่องราวของ Master Chief ตัวละครอันเป็นสัญลักษณ์ของเกมที่จะต้องนำทัพมนุษยชาติในการต่อต้านกับเอเลี่ยนที่ชื่อ The Covenant
(ภาพจาก: Unreality Mag)
Halo ฉบับทีวีซีรี่ส์นั้นได้มีการประกาศแผนในการสร้างมาแล้วตั้งแต่ปี 2013 แต่มันจะยังไม่ได้รับไฟเขียวในการสร้าง จนกระทั่งเมื่อปีที่ผ่านมานี้ที่ได้ทาง Amblin Entertainment ของ Steven Spielberg มารับหน้าที่ในการสร้างและการถ่ายทำพร้อมกับการสนับสนุนจากทางทีมพัฒนาเกมอย่าง 343 Industries โดยตัวทีวีซีรี่ส์นี้จะมีจำนวนทั้งสิ้น 10 ตอนในซีซั่นแรก
ซึ่ง Halo นั้นได้เคยมีความพยายามที่จะนำไปดัดแปลงให้เป็นภาพยนตร์จอเงินมาแล้วในช่วงกลางยุค 2000s ซึ่งได้ทาง Peter Jackson มาเป็นผู้อำนวยการสร้างและจะได้ผู้กำกับอย่าง Neil Blomkamp มาเป็นผู้กำกับ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะมันคือโปรเจ็คที่เป็นการร่วมมือกันของทาง 20th Century Fox และทาง Universal Studios ก็เป็นได้ที่ทำให้มันถูกยกเลิกการสร้างไปในที่สุด อันเนื่องด้วยข้อตกลงภายในที่ไม่ลงตัว
(ภาพจาก: GameByte)
โดยล่าสุดนั้นทาง SlashFilms ได้มีการรายงานแล้วว่า Halo ฉบับทีวีซีรี่ส์นั้นได้เริ่มการวางแผนในการสร้างแล้ว และก็ได้มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการจากทางผู้สร้างแล้วว่าตัวทีวีซีรี่ส์นี้จะเป็นเรื่องราวในแบบฉบับของตัวเองโดยไม่อิงกับเรื่องราวของวิดีโอเกม และมันก็จะไม่ออกฉายจนกว่าจะถึงปี 2020 แต่ถึงกระนั้นตัวภาพยนตร์ก็ยังคงจะมีเรื่องราวที่มีตัวละคร Master Chief เป็นศูนย์กลางอย่างแน่นอน
ซึ่ง Halo นั้นเป็นหนึ่งในเกมที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อันเป็นผลกำเนิดจากทีมพัฒนาอย่าง Bungie Studios ที่ได้สร้างเรื่องราวในจักรวาลของ Halo เอาไว้มากมายจนทำให้มันเป็นหนึ่งในจักรวาลของวิดีโอเกมที่น่าค้นหาและทำให้มันมีเรื่องราวซอยแยกออกไป นอกเหนือจากการเป็นเพียงแค่วิดีโอเกม ไม่ว่าจะเป็นนิยายหรือหนังสือการ์ตูนเองก็ตาม ซึ่งการที่ตัวทีวีซีรีส์นั้นไม่เกี่ยวโยงกับวิดีโอเกมก็น่าสนใจไม่น้อยว่ามันจะสามารถสร้างเรื่องราวได้เหมือนกับวิดีโอเกมหรือไม่ ซึ่งเราก็คงต้องรอกันไปจนกว่าจะถึงปี 2020 ในวันที่มันออกฉาย
ที่มา: Screen Rant
