ในที่สุด Firmware 4.50 ที่ทาง Sony ได้ประกาศเอาไว้ตั้งแต่เมื่อเดือนก่อนว่าจะเป็นอัพเดตครั้งใหญ่ของ PS4 ก็มาเสียที โดยจะมีการปล่อยให้อัพเดตกันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยฟีเจอร์ที่เพิ่มมาจะมีอะไรบ้างนั้น เรามาชมรายละเอียดกันก่อนครับ
1. External HDD
– ผู้เล่นจะสามารถเก็บไฟล์ตัวเกมต่างๆ ที่ซื้อแบบดิจิตอลดาวน์โหลด หรือไฟล์เกมที่มีการ Install จากแผ่นลงใน External HDD ได้แล้ว โดย External HDD ดังกล่าวจะต้องใช้พอร์ต USB 3.0 หรือใหม่กว่าในการเชื่อมต่อกับเครื่อง PS4
– External HDD ที่นำมาเชื่อมต่อจะต้องมีขนาดเนื้อที่ขั้นต่ำ 250 GB และรองรับสูงสุดได้ที่ขนาด 8 TB
– สามารถเลือกปรับที่ Settings หัวข้อ Storage ได้ว่าจะให้ PS4 ทำการเก็บข้อมูลที่ HDD ในตัวเครื่อง PS4 หรือจะไปเก็บข้อมูลที่ External HDD เป็นหลัก
– หากต้องการจะถอดการเชื่อมต่อของ External HDD กับตัว PS4 ให้กดปุ่ม PS Button บนจอยค้างไว้ก่อน แล้วเลือกไปที่ Sound/Devices จากนั้นเลือกหัวข้อ Stop Using Extended Storage แล้วจึงค่อยถอดสาย USB ออก
– ทั้งนี้ ข้อควรระวังอีกอย่างคือ จะมี External HDD อยู่บางรุ่นที่จะไม่ซัพพอร์ตกับการเชื่อมต่อกับ PS4 ดังนั้นผู้เล่นจึงควรศึกษาอย่างละเอียดถึงยี่ห้อและรุ่นที่สามารถใช้กับเครื่อง PS4 ได้ก่อนนะครับ
2. Improved 2D Images on PlayStation VR
– ปกติแล้วภาพที่ปรากฏบนจอของ PlayStation VR จะมีความละเอียดและคมชัดต่ำกว่าบนจอทีวี โดยเฉพาะเวลาออกจากเกมแล้วกลับมายังหน้าจอ Home Screen ของเครื่อง PS4 แต่หลังจากอัพเดต FW 4.50 นี้แล้ว ภาพของ Home Screen และภาพที่เป็นแบบ 2D อื่นๆ ที่ปรากฏอยู่ใน PlayStation VR จะถูกปรับปรุงให้มีความคมชัดมากขึ้น
– หากผู้เล่นใช้ PlayStation VR ในการชมภาพยนตร์ (Cinematic Mode) ตรงนี้ถ้ามีการเซ็ตขนาดของจอไว้ที่ Small หรือ Medium เฟรมเรตระหว่างชมภาพยนตร์จะถูกปรับให้เพิ่มขึ้นจาก 90 Hz เป็น 120 Hz โดยอัตโนมัติ
3. Voice Chat for Remote Play
– ในอัพเดตล่าสุดนี้ ทาง Sony ได้ใส่ระบบ Voice Chat ระหว่างการเล่นแบบ Remote Play บน PC, Mac หรือสมาร์ทโฟนรุ่น Xperia ไว้ให้ สำหรับผู้ที่กำลังเล่นกับเพื่อนๆ แต่ไม่ได้อยู่ใกล้กับเครื่อง PS4 ให้สามารถสื่อสารกันได้แม้แต่จะเล่นกันต่างอุปกรณ์นั่นเอง แถมยังสามารถเลือก เปิด-ปิด ไมโครโฟนจากไอคอนที่ปรากฏอยู่บนอุปกรณ์ที่เล่น Remote Play ได้อีกด้วย
4. Off Console Availability
– เดิมที Sony จะมีให้ดาวน์โหลดแอพลิเคชั่น PlayStation และ PS Messages บนสมาร์ทโฟน เพื่อให้ติดต่อกับเพื่อนๆ ที่กำลังเล่นเกมบนเครื่อง PS4 ได้โดยผู้ที่ใช้แอพไม่จำเป็นต้องเปิด PS4 โดยในอัพเดตรอบนี้ก็ได้มีการเพิ่มไอคอนรูปสมาร์ทโฟนหน้าไอดีเพื่อน เพื่อให้ผู้เล่นมองเห็นเพื่อนคนอื่นๆ ในลิสต์ที่ออนเข้ามาใน PSN ด้วยอุปกรณ์สมาร์ทโฟน ช่วยอำนวยความสะดวกในการสื่อสารหากันมากขึ้น
5. Custom Wallpaper and Profile Color
– ผู้เล่นสามารถนำรูป Screenshot ที่เซฟไว้ในเครื่อง PS4 มาเซ็ตเป็นวอลล์เปเปอร์ในหน้าจอ Home Screen ได้ด้วยการเข้าไปที่ Settings แล้วเลือกหัวข้อ Theme จากนั้นเลือก Custom แล้วระบบจะให้เราเลือกรูปภาพที่เซฟไว้ในเครื่องมาเซ็ตเป็นวอลล์เปเปอร์ได้ทันที และในหน้าโปรไฟล์ของไอดีเรา หากเราเซ็ตรูปสำหรับโปรไฟล์ไว้แล้ว ตัวเครื่อง PS4 จะสร้างแบคกราวด์ของรูปโปรไฟล์เป็นสีสันต่างๆ ให้อัตโนมัติ โดยอิงสีจากภาพโปรไฟล์เราให้มีความเหมาะสมกัน
6. Share Your Activity
– ผู้เล่นจะสามารถแชร์ฟีดที่เป็นข้อความ รูปภาพ เกมแท็กของตนเองลงในระบบโซเชียลของ PlayStation เพื่อให้เพื่อนในเฟรนด์ลิสต์เห็นความเคลื่อนไหวของเราได้แล้ว โดยสามารถเข้าไปเช็คฟีดต่างๆ ได้ที่หัวข้อ What’s New หรือในหน้าโปรไฟล์ของเราก็ได้ อีกทั้งยังสามารถเซ็ตได้ด้วยว่าจะให้เพื่อนคนไหนเห็นฟีดของเราได้ และคนไหนที่เราไม่อยากให้เห็นฟีด เพื่อตอบสนองความต้องการความเป็นส่วนตัวของผู้เล่นนั้นๆ
7. Save Data Shortcut
– ในหน้า Home Screen ถ้าผู้เล่นเลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่เกมใดเกมหนึ่ง แล้วกดปุ่ม Option ค้างไว้ จะสามารถทำการอัพโหลดเซฟเกมนั้นๆ เข้าสู่ระบบ Cloud เพื่อสำรองข้อมูลไว้ หรือจะดาวน์โหลดเซฟเกมที่เคยเก็บไว้ใน Cloud ลงสู่เครื่อง PS4 ของเราได้ (ฟีเจอร์นี้เฉพาะสำหรับผู้ที่สมัคร PlayStation Plus เท่านั้น)
8. SHAREfactory
– รูปภาพหรือวิดีโอต่างๆ ที่เราทำการบันทึกไว้ด้วยเครื่อง PS4 จะสามารถโยกไป Edit ใน SHAREfactory ได้ง่ายๆ ด้วยการเลือกไปที่ไฟล์รูปภาพหรือวิดีโอนั้นๆ แล้วกดปุ่ม Option ก็จะมีตัวเลือกให้ดึงไฟล์ไปทำต่อใน SHAREfactory ได้ทันที และนอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถแชร์ไฟล์ GIF ต่างๆ ที่ผ่านการ Edit จาก SHAREfactory ลงในหน้าฟีดได้อีกเช่นกัน
9. Boost Mode
– ฟีเจอร์นี้จะสำหรับผู้ที่มี PS4 Pro เท่านั้นครับ โดยสามารถเข้าไปที่ Settings ตามด้วยหัวข้อ System ก็จะเจอคำสั่ง Boost Mode ซึ่งถ้าหากเปิดโหมดนี้ก็จะทำให้เกมต่างๆ ที่เราเล่นนั้นมีเฟรมเรตที่ดีขึ้น (หรือนิ่งขึ้นในกรณีที่เกมนั้นล็อคเฟรมเรตไว้แค่ 30 fps) ตลอดจนลดเวลาในการโหลดเกมนั้นๆ ให้น้อยลงด้วย อย่างไรก็ตาม ก็จะมีบางเกมที่ Boost Mode ไม่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพใดๆ ได้หากเกมนั้นถูกพัฒนาด้วยการล็อคสเปคทุกอย่างเอาไว้หมดตั้งแต่แรกแล้ว ด้วยเหตุนี้ผู้เล่นจึงควรศึกษารายละเอียดของตัวเกมจากบนกล่องเกม หรือรายละเอียดที่มีระบุไว้เวลาที่ซื้อเกมแบบดิจิตอลดาวน์โหลดก่อนนะครับ
10. PS Messages
– ส่วนนี้จะมีการปรับปรุงเพิ่มเติมรายละเอียดปลีกย่อยเข้าไปพอสมควร แต่ที่เด่นที่สุดก็คงจะเป็นเวลาที่เพื่อนเราส่ง Invite เพื่อชวนเล่นเกมด้วยกัน หากใครที่มีสมาร์ทโฟนระบบ iOS หรือ Android และดาวน์โหลดแอพ PS Messages มาแล้ว ก็จะมีตัวเลือกให้เราเลือกตอบเพื่อนได้ระหว่าง I’ll join later (เดี๋ยวเข้าไปแจม) หรือ Sorry, I can’t join (บอกปฏิเสธ) ซึ่งช่วยให้เราสามารถตอบเพื่อน ณ ตอนนั้นได้ทันที ไม่จำเป็นต้องรอเปิดเครื่อง PS4 เพื่อเข้าไปตอบ
เครดิต: PlayStation US Blog / PlayStation EU Blog