รีวิว: FIFA 17 Demo (PC) – เกมลูกหนังฤดูกาลใหม่กับอะไรใหม่ๆ ที่ดูแล้วน่าจะเข้าท่าขึ้นกว่าเดิม!

บทรีวิวโดย: Dark_Librarian


 

FIFA 17 DEMO (PC)

 

     หลังจากตั้งหน้าตั้งตากำตังรอมาอย่างเนิ่นนานในที่สุดอีกไม่เกิน 2 อาทิตย์นับจากนี้ เกมเมอร์คอบอลชาว FIFA ก็น่าจะได้่สุขสมอารมณ์หมายกับชิ้นงานเกมประจำปีจากทาง EA Sports อย่าง FIFA 17 กันเสียทีครับ แต่ก่อนหน้านั้นทางผู้พัฒนาก็ได้ลองปล่อยตัวเดโมออกมาให้ลองกันตั้งแต่เที่ยงคืนเมื่อวาน ซึ่งตัวผมที่กำลังจะปิดคอมพ์นั้น ดันเหลือบไปเจอพอดี จึงได้ทดลองเล่นไปราวๆ 1 ชั่วโมงกว่าๆ กับ 2 โหมดในเดโมที่มีให้เล่นคือ Kick-Off ทั่วไปและโหมดชูโรงตัวใหม่ของภาคนี้อย่าง The Journey นั่นเอง

 

 

    เมื่อเข้ามาในเกมก็เป็นธรรมเนียมว่าตัวเกมจะต้องเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเมื่อคืนผมว่ามันนานไปนิด แต่อาจเพราะมันเปิดโหลดเล่นวันแรก คนอาจแห่เข้ามาพร้อมๆ กัน ทำให้ตัวเซิร์ฟเวอร์มันอืดไปสักหน่อย จากนั้นเราก็จะเข้าหน้าจอเมนูหลักของเกมครับ โดยในส่วนนี้ไม่มีบังคับเข้าเล่นแมตช์เปิดเกมเหมือนเดโมของ 2 ภาคก่อนแล้ว จัดว่าดีเลยตัดรำคาญไปได้เยอะ ผมเลือกเข้าไปเช็คเซ็ตติ้งก่อนเป็นอันดับแรกและพบว่าปรับรายละเอียดเกี่ยวกับการแข่งขันได้เล็กน้อยตามสไตล์ของเดโมครับ เข้าใจได้อยู่ แบบว่าขอปรับความยากกับมุมกล้องได้ก็ถือว่าโอเค

 

 

     ผมเลือกจะลองเกมในโหมด Kick-Off ก่อนครับ โดยทีมให้เลือกก็มีหลอกหลายเช่นกันอาจเซอร์ไพรซ์กับทีมอย่าง Tigres หรือ Gamba Osaka ที่มีให้เล่นด้วย แต่ในเมื่อมีชื่อ Manchester United ให้เลือกเล่น ผมก็หมดเหตุผลจะเล่นทีมอื่น เลือดผีมันแรง ฮ่าๆ! (แต่ตกใจค่าพลังทีมนิดหน่อยแบบว่ามากมายกว่าอัพเดตล่าสุดของภาค 16 อย่างกับคนละทีม) ในส่วนหน้าจอเลือกทีมหรือปรับแทคติคจัดตัวลงสนาม ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงจากภาคที่แล้วนักครับ เมื่อปรับนู่นนี่เรียบร้อยก็ถึงว่าเวลาลองกันล่ะ!

 

พลังเยอะแบบไม่เกรงใจยอดทีมอื่นๆ เลย เมพขิงๆ… แต่ไม่ต้องถามถึงผลการแข่งนัดล่าสุดนะ…

 

     กราฟิกในโหมดการแข่งขันแม้จะยกเอนจิ้นใหม่ (จาก Ignite เป็น Frostbite) หมดจด แต่หากดูเพียงผิวเผินมันก็อาจจะไม่ต่างอะไรกับเอนจิ้นเดิมนัก ทว่าเมื่อลองได้เล่นจริงรวมถึงบางจังหวะที่กล้องซูมเข้าหานักเตะชัดๆ ก็จะพบว่ามีการแสดงผลรายละเอียดที่ดีกว่าในทุกสัดส่วน นอกจากนี้เพราะมีการเปลี่ยนขุมพลังของเกมไปก็ทำให้จังหวะจะโคนต่างๆ คลาดเคลื่อนแปรเปลี่ยนจากของเดิมไปแทบทั้งหมด ผู้เล่นต้องมาจูนจังหวะส่ง จังหวะเลี้ยง จังหวะยิงกันใหม่ ใหม่ในที่นี้คือใหม่จริงๆ ครับ โดยเฉพาะระะบบลูกตั้งเตะขบวนล่าสุดที่แม้จะเปิดกว้างแต่ก็ค่อนข้างยุ่งยากในการเล็งกว่าเดิมไปสักหน่อย กระนั้นผมก็ยังไม่ได้นับเป็นข้อเสียนะ รู้สึกว่ามันเปลี่ยนภาคถ้ารสชาติบางอย่างมันจะเปลี่ยนไปบ้างก็รับได้อยู่ครับ แถมเอาเข้าจริงมันก็ลุ้นขึ้นกว่าเก่า สนุกดีครับ

     ว่าแต่ประเดิมนัดแรกก็แพ้จุดโทษเลย… เสมอในเวลา 1-1 ทั้งๆ ที่คู่แข่งได้ยิงครั้งเดียวนี่อนาถแท้

 

ง่วงกันมาจากไหนน้อ

 

     ทีนี้มาดูโหมด Journey อันเป็นฟีเจอร์ทีเด็ดของภาคนี้กันบ้าง โดยโหมดนี้เราจะได้รับบทเป็น Alex Hunter นักเตะหนุ่มผิวสีชาวอังกฤษที่จะต้องสู้ในชีวิตบนโลกแห่งฟุตบอลของตัวเองครับ เพื่อนซี้ร่วมทีมของเขาคือ Gareth Walker นักเตะร่างเล็กผิวขาวที่ดูจากบริบทแล้วเดาว่าหมอนี่จะต้องกลายเป็นคู่แข่งฟ้าประทานของตัว Hunter แน่นอน (นี่ FIFA หรือ Pokemon…)

 

 

     ผมไม่รู้แน่ชัดว่าในตัวเต็มเราจะเริ่มชีวิตการเป็น Alex Hunter จากจุดไหน แต่ในเดโมได้จับเอาช่วงที่เขาได้เลื่อนขึ้นมาเป็นสำรองทีมชุดใหญ่ของ Manchester United เรียบร้อย ทว่าขณะเดียวกันนาย Walker มิตรสหายของเราดันได้ออกสตาร์ทตัวจริงและยิงได้ทันที แต่ไม่นานทีม Chelsea คู่แข่งขันก็ตีเสมอได้และนั่นทำให้โค้ชตัดสินใจส่ง Hunter ลงไปกู้สถานการณ์ครับ

 

พี่ Walker ต้องเทพเบอร์ไหนถึงเบียดทั้งซลาตันและพ็อกบามาเป็นสำรองได้เนี่ย…

 

     จะว่าเป็นเนื้อเรื่องของเกมก็ว่าได้ครับ โดยโหมดนี้ก็จะมีส่วนผสมความเป็น RPG อยู่หึ่งเลย เพราะคุณต้องเจอคัทซีน ต้องเจอฉากตอบคำถามต่างๆ ซึ่งการตัดสินใจพูดอะไรออกไปก็จะเป็นตัวกำหนดบุคลิกของเราว่าจะเป็นพวกเลือดเดือดมั่นใจในตัวเองสูงหรือจะสุขุมเย็นเยือกครับ นอกจากนี้บุคลิกของเรายังจะมีผลกับแฟนๆ และโค้ชด้วย เรียกว่าผลงานในสนามดีไม่พอ การประพฤติตัวก็ต้องเหมาะสมด้วย

 

 

     ในแมทช์การแข่งขันเราสามารถเลือกได้ว่าจะเล่นแบบคุมทั้งทีมหรือจะเล่นเป็นแค่ Alex Hunter คนเดียวแล้วปล่อยให้ AI คุมผู้เล่นคนอื่นๆ ไป ตามความเห็นผมคิดว่าถ้าจะเอาง่ายก็คุมทั้งทีมครับ เพราะคุณจะสามารถคุมทุกอย่างในสนามได้เกือบหมดและปั้นตัว Hunter ได้ไม่ยาก แต่หากอยากสัมผัสความสมจริงขึ้นมาหน่อยก็เล่นแบบเป็น Hunter คนเดียวไปเลยครับ เพราะปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมจะมีเยอะกว่า มีความกดดัน มีแรงขับ มีอารมณ์ร่วมมากขึ้น เวลาคุณพลาดในบางครั้ง กล้องจะจับภาพโค้ชส่ายหัวก็มี ซึ่งมันเป็นอะไรที่ดึงความอินของผู้เล่นได้เยอะกว่านะผมว่า นอกจากนี้ในแต่ละแมทช์ก็จะมีภารกิจให้ทำครับเพื่อจะซื้อใจโค้ชให้ส่งเราลงในแมทช์หน้าด้วย และพอเล่นจบก็จะมีคอมเม้นต์จากโค้ชรวมถึงตอบคำถามจากนักข่าวและจบเดโมลงครับ

 

 

     โดยรวมกับเดโมนี้ผมถือว่าโอเคเลยครับได้รสชาติใหม่ที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่ก็อร่อยอยู่ แถมโหมด Journey ก็น่าสนใจใช่ย่อย ใครที่เป็นแฟนเกมฟุตบอลนี่บอกเลยว่าถ้าไม่โหลดมาลองถือว่าโคตรพลาดครับ ขณะที่ FIFA 17 ตัวเต็มนั้นมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 27 กันยายนนี้บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One ครับ

 

"ผมชื่อ Alex Hunter คุณไม่รู้จักผมในตอนนี้ แต่เชื่อเถอะ… อีกไม่นานหรอก"

 

 

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้