เชื่อได้ว่า ช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมานี้ กระแสซอมบี้ยังคงบูมอย่างต่อเนื่อง เกมบางเกม ถึงกับต้องทำแพตช์ซอมบี้เสริมเข้ามาเพื่อเกาะกระแสเกมซอมบี้อีกมากมายด้วยกัน รวมถึงเกมออนไลน์ต่างๆ ด้วย สิ่งเหล่านี้้เป็นการยืนยันว่า กระแสซอมบี้ยังไงก็ไม่มีวันตายจริง
และเนื่องจากเป็นยุคเกมซอมบี้ที่มีอยู่มากมาย เกมซอมบี้ต่างๆ ก็มีการงัดลูกเล่นเฉพาะตัวออกมาเพือแข่งขันจุดเด่นกัน และที่สำคัญคือ วิธีการเอาตัวรอดหลากหลายรูปแบบที่เราได้เรียนรู้ จากเกมแนวซอมบี้ในรูปแบบต่างๆ ครับ จะมีอะไรบ้างนั้นลองมาดูกันเลย
ข้อที่ 1 : ห้ามโดนกัดโดยเด็ดขาด
(ถ้าไม่ใช่พระเอกเกมบางเกม)
สิ่งที่เรารู้กันดีก็คือ ซอมบี้ทั้งหลายมักเกิดขึ้นจากการติดเชื้อในรูปแบบต่างๆ และเชื้อนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในตัวซอมบี้เหมือนเป็นพาหะนำโรคร้าย และหากโดนซอมบี้กัดเข้าไปแม้แต่ทีเดียว ก็เท่ากับเราติดเชื้อนั้นด้วยเช่นกัน และตัวเราก็จะค่อยๆ กลายเป็นซอมบี้แบบพวกมัน ดังนั้นต้องระวังการโดนกัดเอาไว้ให้ดี
ข้อที่ 2 : กักตุนไอเทมให้มาก
แม้เราจะไม่ได้ถูกซอมบี้กัด แต่เราก็มีโอกาสตายในสถานการณ์ต่างๆ ได้เช่นกัน อย่างเช่น หิวตาย, บาดเจ็บ, โดนแย่งที่อยู่อาศัยรวมถึงอาหารการกินด้วย การมีไอเทมกักตุนเอาไว้มากๆ จะช่วยในส่วนนี้ได้ดี ไม่ว่าเพื่อนๆ จะไปที่ไหนก็ตามแล้วพบกระสุนปืน, อาหาร, หมึกพิม, คีย์การ์ดอะไรสักอย่าง ไปจนถึงรูปปั้นประหลาดๆ อย่าลืมที่จะเก็บมันเด็ดขาด (ฮา)
ข้อที่ 3 : เด็กก็เหมือนตัวถ่วง
หากคิดจะพาเด็กไปด้วยในสถานการณ์ที่มีซอมบี้เต็มไปหมด ไม่ต่างอะไรไปจากลูกกวางในดงเสือที่หิวโหยเลย และยิ่งเป็นเด็กซนและไม่ดูสถานการณ์อะไรเอาซะเลย จะยิ่งเป็นภาระแบบสุดๆ แถมจะนำพาให้งานเข้าเราเองอีกด้วย แต่ในอีกมุมหนึ่ง เด็กก็สามารถใช้วิ่งผ่านช่องหรือลอดผ่านพื้นที่แคบบางจุดได้ ถ้าเด็กมีความกล้าพอ
ข้อที่ 4 : บริษัทยามักจะอยู่เบื้องหลังเสมอ
ด้วยความที่บริษัทยาจะมีความรู้เกี่ยวกับเซลล์และร่างกายมนุษย์มากที่สุด พวกเขาจึงมักอยู่เบื้องหลังการแพร่กระจายของโรคต่างๆ เสมอ เพื่อทำเงินจากการรักษาด้วยยาที่ตัวเองผลิตขึ้นมาเอง มีเกมแนวซอมบี้อยู่มากมายที่ใช้มุกนี้เป็นหลัก เชื้อจะแพร่กระจายด้วยวิธีต่างๆ ไม่จงใจก็ต้องมีเหตุบังเอิญเสมอ
ข้อที่ 5 : รวมกันเราอยู่
จากหลายๆ เกมที่เราเห็นมา จำนวนคนนั้นสำคัญมากครับ ซอมบี้ 5 ตัว แต่เราถือปืนยิงอยู่คนเดียว ยังไงก็เอาไม่อยู่ครับ เราจึงต้องมีเพื่อนร่วมทางที่ไว้ในได้คอยช่วยด้วย อย่างน้อยก็ช่วยระวังหลังหรือปกป้องให้กันและกันได้ ในสถานการณ์จริงเราไม่ได้เป็นตัวเอกที่จะถือไม้ท่อนเดียวฟาดฟันซอมบี้นับร้อยได้ หรือถือปืนกระบอกเดียวได้ครับ
ข้อที่ 6 : อย่าลืมพกไฟฉายติดตัวไว้
(แน่นอนว่าถ่านด้วย)
ไฟฉายจำเป็นอย่างยิ่งในการค้นหาครับ แถมซอมบี้บางชนิดก็กลัวแสงและออกล่าตอนค่ำ การมีไฟฉายติดตัวไว้จะช่วยให้เราปลอดภัยในบางโอกาสอย่างน่าเหลือเชื่อ
ป.ล. เกมข้างบนไม่ใช่ซอมบี้นะครับ
ข้อที่ 7 : เรือมีประโยชน์กว่าที่คิดนะ
ซอมบี้ทั้งหลายไม่มีสมองจึงว่ายน้ำไม่เป็น การลอยคออยู่บนเรือเหนือน้ำลึกๆ จะช่วยให้รอดพ้นจากเหล่าซอมบี้ได้เป็นอย่างดี
แต่ทว่า… หากเจอซอมบี้ปลา หรือสัตว์น้ำกลายพันธุ์ขนาดใหญ่ ก็มีเงิบแน่นอนครับ เพราะถึงจะไม่โดนซอมบี้ตามมาได้ แต่เราเจอแบบนี้ก็ไม่มีที่ให้หนีแน่นอนเช่นกัน
ข้อที่ 8 : เตรียมแผน 2 เอาไว้เสมอ
ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้นี้ เรียกได้ว่ามันอันตรายมาก หากทำอะไรโดยไม่มีแผนสำรองไว้ อย่างเช่นการออกไปล่าสัตว์ในป่าก็จำเป็นต้องดูทางหนีทีไล่เอาไว้หลายๆ เส้นทาง เผื่อเจอซอมบี้ฝูงใหญ่ไล่ตามมาจากเส้นทางหลักแล้วจะกลับไปไม่ถูกเอา เป็นต้น
ข้อที่ 9 : เล็งหัว ! (ยกเว้นถ้ามันอยู่นอกโลก)
จุดอ่อนซอมบี้ อยู่ที่หัว หากใช้ลูกตะกั่วระเบิดหัวมันได้เท่ากับว่ามันตายแล้วแน่นอน หรือจะใช้เป็นท่อเหล็ก หรือของแหลมของคมในการจัดการหัวมันก็ได้เช่นกัน ดังนั้นอย่าลังเลที่จะเล็งหัวมันเด็ดขาด
ข้อที่ 10 : เขตปลอดภัยในเมืองซอมบี้ไม่มีอยู่จริงหรอก
เหล่าซอมบี้มักขยายอาณาเขตออกไปเรื่อยๆจากการกัดคนหนึ่งคน สองคน สามคน และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนการกระจายของน้ำในจุดที่เราสัมผัส แถมเพียงแค่การกัดก็เพิ่มจำนวนซอมบี้ได้แล้ว แม้ว่าจะมีการตั้งด่านปิดสกัดเหล่าซอมบี้ไว้แต่ก็ไม่ได้นานแน่นอน ดังนั้นจึงอย่าหวังเลยว่า บ้านที่ปิดมิดชิดกลางเมืองที่มีแต่ซอมบี้นับพันล้อมรอบ จะรอดจากการบุกรุกของซอมบี้ไปได้ ถ้าไม่ใช่สถานที่ห่างไกลจากเขตซอมบี้ไปอีกสักหลายสิบกิโลเมตรฯ
ข้อที่ 11 : ห้างเป็นแหล่งอาวุธและเสบียงชั้นดี
และก็เป็นศูนย์รวมซอมบี้ชั้นดีด้วยเช่นกัน
ห้างสรรพสินค้าทั้งหลายล้วนแล้วแต่มีสิ่งต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารเครื่องดื่ม ยารักษาโรค และแม้กระทั่งอาวุธตั้งแต่ของมีคม ยันอาวุธสงคราม (แล้วแต่ห้าง) แต่หากจะมาหาอะไรในนี้ล่ะก็ ระวังเจอกับฝูงซอมบี้ในห้างนั้นๆ ไว้ให้ดี และยิ่งหากติดอยู่ในห้างออกไปไหนไม่ได้ ก็เตรียมใจไว้ได้เลยว่าเราตายไปแล้ว
เกมซอมบี้ยังมีอยู่มากมาย และคิดว่ากระแสก็คงจะยังไม่หมดไปง่ายๆ อีกด้วย ไม่แน่เราอาจจะพบหลักการเอาตัวรอดแปลกๆ เพิ่มเติมอีกมากมายก็เป็นได้ครับ ^^